เมื่อวันที่ 10 – 11 กรกฎาคม 2561 นาย Adel Al-Jubeir รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซาอุดีอาระเบีย เป็นหัวหน้าคณะซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือ จีน – อาหรับ ครั้งที่ 8 (The China – Arab States Cooperation Forum) โดยสื่อท้องถิ่นในประเทศได้รายงานว่า การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อแสวงหาและสนับสนุนความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ระหว่างจีนกับกลุ่มประเทศอาหรับ[su_spacer size=”20″]
ในระหว่างการประชุม นาย Xi Jinnping ประธานาธิบดีจีน ได้ประกาศว่า จะให้เงินกู้ยืมจำนวน 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่ประเทศในภูมิภาค อันได้แก่ ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ เพื่อนำไปพัฒนาฟื้นฟูเศรษฐกิจ และฟื้นฟูอุตสาหกรรม เพื่อสร้างงานและอาชีพ รวมถึงแก้ปัญหาด้านสังคมที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในช่วงเวลานี้[su_spacer size=”20″]
นอกจากนี้ จีนต้องการเข้ามามีบทบาทสำคัญเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ และหาทางออกจากสถานการณ์ที่ตึงเครียดในขณะนี้ ทั้งนี้ จีนจะมอบความช่วยเหลือด้านการเงินให้แก่ปาเลสไตน์จำนวน 1 พันล้านหยวนหรือประมาณ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และให้ความช่วยเหลือด้านการเงินให้แก่จอร์แดน ซีเรีย เลบานอน และเยเมน อีกกว่า 600 ล้านหยวน ทั้งนี้ ได้มีการหารือเพื่อจัดตั้งกลุ่มธนาคารจากจีนและชาติอาหรับโดยให้มีกองทุนประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำไปสนับสนุนแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งจะรวมถึงความร่วมมือด้านน้ำมัน ก๊าซ พลังงานนิวเคลียร์และพลังงานสะอาด[su_spacer size=”20″]
ประธานาธิบดีจีนกล่าวในที่ประชุมต่อผู้แทนชาติอาหรับกว่า 21 ประเทศ ว่าการพัฒนาเป็นหัวใจสำคัญของการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงในตะวันออกกลาง และควรปฏิบัติต่อกันอย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้ จีนได้พยายามเข้ามามีบทบาทในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาอย่างเห็นได้ชัดขึ้น ไม่ว่ากรณีที่จีนได้สร้างฐานทัพทางทหารแห่งแรกในจิบูตี และได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนมหาศาลให้แก่หลายชาติอาหรับในภูมิภาค เช่น จิบูตี ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้นักวิเคราะห์สถานการณ์ระหว่างประเทศมองว่า การช่วยเหลือทางการเงินของจีนต่อประเทศที่ยากจนได้สร้างความวิตกต่อประเทศเหล่านั้นที่ขอรับความช่วยเหลือ อีกทั้งต้องแบกรับหนี้จำนวนมหาศาลที่จะตามมาอีกด้วย โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ศรีลังกาเป็นประเทศที่ถูกบังคับให้มอบการควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของท่าเรือ Hambantota ให้กับจีนภายหลังจากที่ไม่สามารถชำระคืนเงินกู้ได้[su_spacer size=”20″]
การประชุมในครั้งนี้ ได้มีการหารือเกี่ยวกับการกำหนดเขตการค้าเสรีระหว่างกลุ่มประเทศ GCC กับจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นที่มีความสำคัญต่อความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่าย อนึ่ง ในปี 2017 ปริมาณการค้าระหว่างกลุ่มประเทศ GCC กับจีน มีมูลค่าประมาณ 191 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่า หากมีการสร้างเขตการค้าเสรี GCC กับจีน ซึ่งจีนมองว่าเส้นทางสายไหมของจีนในโลกอาหรับ จะเพิ่มโอกาสด้านการค้าการลงทุนให้แก่จีนมากขึ้น [su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด