ในปัจจุบัน ซาอุดีอาระเบียได้รับการจัดอันดับด้าน “ความสะดวกในการทําธุรกิจ” (ease of doing business) อยู่ในลําดับที่ 92 จาก 190 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ นาย Ibrahim A-Omar ผู้ว่าการการลงทุนซาอุดีอาระเบีย (Saudi Arabia General investment: SAGAI) ซึ่งอยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงเศรษฐกิจและวางแผน กล่าวว่า ประเทศมีนโยบายและโครงการต่าง ๆ ที่จะปฏิรูปเศรษฐกิจและพัฒนาด้านการลงทุนเพื่ออํานวยความสะดวกแก่นักลงทุน ทั้งนี้ ตั้งเป้าพัฒนาซาอุดีอาระเบียให้ติดอันดับ 20 ประเทศแรกของโลกที่มีความสะดวกในการทําธุรกิจภายในปี 2020 [su_spacer size=”20″]
ในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว รัฐบาลซาอุดีฯ ได้เริ่มดำเนินโครงการที่สำคัญ อาทิ [su_spacer size=”20″]
- โครงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ(Privatization)โดยรัฐบาลซาอุดีอาระเบียให้ภาคเอกชนเข้ามาบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อนําผลกําไรเข้าสู่ภาครัฐ อาทิ สโมสรฟุตบอลอาชีพ โรงผลิตแป้งสาลี โรงกลั่นน้ำจืด โรงพยาบาล การศึกษา และการคมนาคม (ทางบก ทางทะเล และทางอากาศ) ซึ่งคาดว่า ภายในปี 2020 จะสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ภาครัฐได้ประมาณ 35 – 40 พันล้านริยาล นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างอาชีพเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10,000 – 12,000 ตําแหน่ง ทั้งนี้ วิสัยทัศน์ 2030 ได้ส่งเสริมการจ้างงานเปิด โอกาสให้สตรีทํางานและมีบทบาทในการพัฒนาประเทศมากขึ้น
- โครงการการออกพันธบัตรเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2561รัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้ออกพันธบัตรเพื่อลงทุนทาง การเงินในด้านตราสารหนี้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อรวบรวมเงินทุนจากในประเทศจํานวน 5 พันล้านริยาล และจากต่างประเทศจํานวน 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
- โครงการจัดเก็บภาษีจากคนต่างชาติตั้งแต่กรกฎาคม 2560รัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้เริ่มจัดเก็บภาษีรายเดือนจากคนงานต่างชาติและครอบครัวผู้ติดตามที่พํานักอาศัยในประเทศ โดยกําหนดอัตราการจัดเก็บภาษีแตกต่างกัน กล่าวคือ ในปี 2018 เดือนละ 300-400 ริยาล/คน ปี 2019 เดือน 500 – 600 ริยาล/คน ปี 2020 เดือนละ 700-800 ริยาลคน และจากผู้ติดตามในปี 2017 เดือนละ 100 ริยาล /คนปี 2018 เดือนละ 200 /คน ปี 2019 เดือนละ 300 ริยาล/คน และปี 2020 เดือนละ 400 ริยาล/คน ซึ่งรัฐบาลซาอุดีอาระเบียคาดว่าในปี 2020 จะมีรายได้จาก การจัดเก็บภาษีดังกล่าวประมาณ 65 พันล้านริยาล
- โครงการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)และการปรับขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศโดยต้นปี 2561 รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปร้อยละ 5 เป็นครั้งแรกในประเทศ อันเป็นไปตามความตกลงของกลุ่มประเทศ GCC และรวมถึงมีมาตรการจัดเก็บภาษี (VAT) จากสินค้าบางประเภท อาทิ เครื่องดื่มชูกําลัง และยาสูบ ในอัตราร้อยละ 50 – 100 นอกจากนี้ ในช่วงเวลาเดียวกัน รัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงภายใน ประเทศเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัว รวมถึงประกาศลดการอุดหนุนด้านพลังงานและน้ำประปาให้แก่คนในชาติ
- โครงการ‘Saudization’เป็นโครงการที่รัฐบาลซาอุดีอาระเบียบังคับภาคเอกชนให้รับคนซาอุดีอาระเบียเข้า ทํางานและลดจํานวนแรงงานต่างชาติลง พร้อมกําลังเร่งผลิตแรงงานมีฝีมือและทุ่มงบประมาณด้านการศึกษาจํานวนมหาศาลเพื่อเตรียมคนซาอุดีอาระเบียป้อนเข้าสู่ตลาดแรงงานทดแทนแรงงานต่างชาติ
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด