รายงานสภาวะทางเศรษฐกิจของสํานักงานสถิติแห่งชาติซาอุดีฯ ได้ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2563 ระบุว่าในไตรมาส 2/2563 อัตราการขยายตัวของ GDP (Real GDP Growth) ของซาอุดีฯ อยู่ที่ -79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 โดยปัจจัยหลักที่ทําให้ GDP ของซาอุดีฯ หดตัวเนื่องจากการชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรมน้ำมันของซาอุดีฯ อยู่ที่ 5.3% และสาขาอื่นๆ ที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมน้ำมันอยู่ที่ -8.2% ทั้งนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจของซาอุดีฯ ในไตรมาส 2/2563 หดตัวทุกสาขา โดยสาขาที่ชะลอตัวมากที่สุด คือ ธุรกิจการค้าปลีก/ค้าส่ง ภัตตาคารและโรงแรมอยู่ที่ -18.3% ธุรกิจขนส่ง การกักเก็บสินค้า และคมนาคมอยู่ที่ -16.39% และธุรกิจการกลั่นน้ำมันอยู่ที่ -14% ตามลําดับ
[su_spacer]
ในไตรมาส 2/2563 มูลค่า GDP ของซาอุดีฯ อยู่ที่ 564.2 พันล้านริยาล (ประมาณ 150.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 23.8% จากช่วงเดียวกันของปี 2562 โดยสาขาทางเศรษฐกิจที่มีสัดส่วนต่อ GDP ของซาอุดีฯ มากที่สุด ได้แก่ การบริการภาครัฐอยู่ที่ 24.5% น้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติอยู่ที่14.5% อุตสาหกรรมการผลิต อยู่ที่ 10.3% และการค้าปลีก/ค้าส่ง ภัตตาคารอาหารและการโรงแรมอยู่ที่ 10.39% ตามลําดับ ในขณะเดียวกัน รายได้เฉลี่ยต่อหัวของซาอุดีฯ ในไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ 16,115 ริยาล ประมาณ 4,200 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลง25.7% จากช่วงเดียวกัน ของปี 2562 ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกของซาอุดีฯ ในไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ 121.4 พันล้านริยาล ประมาณ 32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 55.8% จากช่วงเดียวกันของปี 2562 ในขณะที่มูลค่าการนําเข้าของซาอุดีฯ ในไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ 159 พันล้านริยาล คิดเป็น 42.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 24.2% จากช่วงเดียวกันของปี 2562
[su_spacer]
เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2563 กระทรวงการคลังซาอุดีฯ แถลงว่าในปีงบประมาณ 2564 รัฐบาลซาอุดีฯ จะดําเนินนโยบายทางการคลังแบบขาดดุลงบประมาณอยู่ที่ประมาณ 145 พันล้านริยาล ประมาณ 38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่าการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปี 2564 จะอยู่ที่ 846 พันล้านริยาล (ประมาณ 225.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และรายจ่ายของรัฐบาลอยู่ที่ 990 พันล้านริยาล ประมาณ 264 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของซาอุดีฯ ในปี 2564 จะขยายตัวร้อยละ 3.2 ในขณะที่หนี้สาธารณะของซาอุดีฯ ณ สิ้นปี 2563 ประมาณการอยู่ที่ 854 พันล้านริยาล ประมาณ 227 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 34.4 ของ GDP ทั้งนี้ สถาบันการเงินต่างวิเคราะห์ว่า กระทรวงการคลังซาอุดีฯ คํานวณงบประมาณรายจ่ายประจําปี 2564 ภายใต้สมมติฐานราคาน้ํามันเฉลี่ยอยู่ที่ 50 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล ระหว่างปี 2553-2566
[su_spacer]
ทางการซาอุดีฯ ได้เริ่มแก้ไขระเบียบการบริหารราชการให้หน่วยงานราชการของซาอุดีฯ กว่า 38 แห่งเตรียมความพร้อมที่จะแปรรูปรัฐวิสาหกิจภายในระยะเวลา 2 ปี โดยประสานงานกับหน่วยงาน National Center for Privatization เพื่อจัดเตรียมและเสนอแผนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจขององค์กรเพื่อดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชน ซึ่งมีกระทรวงสําคัญต่าง ๆ ที่จัดอยู่ในแผนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ น้ำ และการเกษตร กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน อุตสาหกรรมและทรัพยากรเหมืองแร่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกิจการฮัจย์และอุมเราะห์ และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
[su_spacer]
เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2563 สื่อมวลชนซาอุดีฯ รายงานข่าวเรื่องการจัดอันดับ Ease of Doing Business ของธนาคารโลก ประจําปี 2563 โดยซาอุดีฯ ได้รับการจัดอยู่ในอันดับที่ 62 จากทั้งหมด 190 ประเทศและเขตเศรษฐกิจ (ไทยอยู่ในอันดับที่ 21) ซึ่งปรับสูงขึ้นจากอันดับที่ 92 ในปี 2562 ทั้งนี้ ปัจจัยความสะดวกในการเริ่มต้นธุรกิจ (Starting a Business) ของซาอุดีฯ ได้รับการจัดอยู่ในอันดับที่ 38 ซึ่งสะท้อนถึงมาตรการของซาอุดีฯ ที่ส่งเสริมและอํานวยความสะดวก ให้แก่นักลงทุน/ผู้ประกอบการในการจดทะเบียนก่อตั้งธุรกิจเป็นอย่างดี (ไทยอยู่ในอันดับที่ 47) รายงานของธนาคารโลกระบุด้วยว่า ประเทศที่มีพัฒนาการในด้าน Ease of Doing Business มากที่สุดในปี 2563 ได้แก่ ซาอุดีฯ จอร์แดน โตโก บาห์เรน ทาจิกิสถาน ปากีสถาน คูเวต จีน อินเดีย และในจีเรีย
[su_spacer]
รายงานด้านตลาดแรงงานของสํานักงานสถิติแห่งชาติซาอุดีฯ ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2563 ระบุว่า ในไตรมาส 2/2563 อัตราการว่างงานของชาวซาอุดีฯ อยู่ที่ 15.4% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ 12.3% ในขณะที่อัตราการว่างงานโดยรวม (คนซาอุดีฯ และชาวต่างชาติ) ในไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ร้อยละ 9 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 5.6 โดยเป็นผลกระทบจากปัญหา COVID-19 ร้อยละ 63.1 ของคนซาอุดีฯ ที่ว่างงาน มีอายุเฉลี่ย 20-29 ปี โดยมากกว่าครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 56.6) ของคนซาอุดีฯ ที่ว่างงานจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี และส่วนใหญ่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการทํางานมาก่อน
[su_spacer]
ในไตรมาส 2/2563 อัตราการมีส่วนร่วมในกําลังแรงงานของซาอุดีฯ (labour force participation rate) อยู่ที่ 59.4% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ซึ่งอยู่ที่ 57.9% โดยการเพิ่มขึ้นของอัตราการมีส่วนร่วมในกําลัง แรงงานของซาอุดีฯ สะท้อนถึงจํานวนสตรีซาอุดีฯ ที่เข้าสู่ตลาดแรงงานเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริบททางสังคมของซาอุดีฯ ที่ผ่อนคลายมากขึ้นและอนุญาตให้สตรีซาอุดีฯ สามารถประกอบอาชีพได้ ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/2563 มีคนซาอุดีฯ และต่างชาติจํานวนรวม 400,000 คน ถูกปลดออกจากการจ้างงาน ในซาอุดีฯ คนซาอุดีฯ จํานวน 116,000 คน และคนต่างชาติจํานวน 284,000 คน ส่งผลให้คงเหลือจํานวนแรงงาน ในซาอุดีฯ ณ ไตรมาส 2/2563 ทั้งหมด 13.63 ล้านคน เป็นแรงงานชาวซาอุดีฯ จํานวน 3.17 ล้านคน ชาย 2,055 ล้านคน และหญิง 1.115 ล้านคน และแรงงานต่างชาติจํานวน 10,46 ล้านคน
[su_spacer]
รัฐบาลซาอุดีฯ ยังคงระมัดระวังในการดําเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากการใช้จ่ายของรัฐบาลซาอุดีฯ มีข้อจํากัดเพราะรัฐบาลซาอุดีฯ จัดเก็บรายได้จากน้ำมันได้น้อยลง ในขณะที่การใช้จ่ายของภาคครัวเรือน ในซาอุดีฯ มีแนวโน้มที่ชะลอตัวเนื่องจากการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 5% เป็น 15% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2563 อย่างไรก็ดี ทางการซาอุดีฯ ได้ยกเว้นการเก็บ VAT 15% สําหรับการทําธุรกรรมซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในซาอุดีฯ โดยเรียกเก็บในอัตรา 5% เพื่อช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์และสนับสนุนคนซาอุดีฯ ให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
[su_spacer]
สภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ตกต่ำน่าจะทําให้ซาอุดีฯ คิดค้นและพัฒนาพลังงานทางเลือกใหม่ ๆ อย่างจริงจังเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตน้ํามันของซาอุดีฯ และกระจายตลาดไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมที่นิยมการใช้พลังงาน ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยล่าสุด Saudi Aramco และ Japan’s Institute of Energy Economics (IEEU) ได้ร่วมกันจัดส่ง blue ammonia จํานวน 40 ตัน จากซาอุดีฯ ไปยังญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ซึ่ง blue ammonia เป็นเชื้อเพลิงทางเลือกที่สามารถ ใช้ในการผลิตพลังงานไฟฟ้าโดยไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก
[su_spacer]