ภูมิหลัง Kakao Group
.
บริษัท Kakao เปิดตัวครั้งแรก เมื่อปี 2010 ในรูปแบบแอปพลิเคชั่นส่งข้อความ ‘KakaoTalk’ ซึ่งในขณะนั้นบริษัท Naver ยังครองตลาดแพลตฟอร์มออนไลน์ในเกาหลีใต้ ทาง Kakao พยายามขยายกิจการแข่งขันกับ บริษัท Naver โดยเร่งดําเนิน M&A และ spin-offs และเพียงไม่นาน Kakao สามารถขยายธุรกิจใน digital platforms เช่น Kakao Games ปี 2012 Kakao Entertainment ปี 2013 Kakao Pay & Kakao Bank ปี 2014 Kakao Taxi 2015 Kakao TV ปี 2020 จนในที่สุด KakaoTalk ได้กลายเป็นแอปพลิเคชั่นส่งข้อความอันดับ 1 ในเกาหลีใต้ โดยมีผู้ใช้บริการ 39 ล้านรายต่อเดือน Kakao Group ได้ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทขนาดใหญ่อันดับ 7 ในเกาหลีใต้ แซงหน้า Samsung SDI Hyundai Motors และ Kia Motors และเป็นเพียง 1 ใน 2 บริษัทด้านเทคโนโลยีที่ได้รับการจัดอันดับ 10 บริษัทที่มีรายได้สูงสุดในเกาหลีใต้
.
บริษัท Kakao Entertainment ประกอบธุรกิจ webtoon และ webnovel ขณะนี้ได้ขยายกิจการสู่อุตสาหกรรมเพลง ซีรีส์และภาพยนตร์ อีกทั้งเซ็นสัญญากับศิลปินเกาหลีใต้ที่มีชื่อเสียงหลายราย หากพิจารณาจากจํานวนผลงานและรายได้รวม Kakao Entertainment ถือเป็นบริษัท entertainment อันดับ 2 ใน เกาหลีใต้ โดยเป็นรองแค่บริษัท CJ E&M โดยผลงานที่ผ่านมาการ์ตูนใน Kakao Webtoon จำนวนหลายเรื่องได้ถูกนําไปพัฒนาเป็นซีรีส์ต่อและประสบความสําเร็จอย่างมาก เช่น Itaewon Class What’s Wrong with Secretary Kim The Uncanny Counter Imitation และ Navillera ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายของ Kakao Webtoon กลุ่มใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ เป็นแม่บ้านผู้หญิงวัยระหว่าง 40-50 ปี ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บ้าน โดยลูกค้าเยาวชนคนรุ่นใหม่ในเกาหลีใต้ยังคงนิยม Netflix และ YouTube มากกว่า
.
ธุรกิจ Kakao Webtoon ในไทย
.
บริษัทฯ เปิดตัวแอปพลิเคชัน Kakao Webtoon ในไทย เมื่อเดือนมิถุนายน 2564 และปัจจุบันได้กลายเป็นผู้ให้บริการ webtoon รายใหญ่ที่สุดในไทยในระยะเวลาอันรวดเร็ว แซงหน้า LINE Webtoon ซึ่งนาย Kang เชื่อว่าปัจจัยที่ส่งผลให้ Kakao แซงหน้า LINE ได้คือกลยุทธ์ด้านการสร้างรายได้ที่ต่างกัน ด้าน LINE Webtoon นําเสนอจุดแข็งด้านการให้ลูกค้าอ่านการ์ตูนฟรีเกือบทั้งหมด โดยคิดค่าใช้จ่ายเพียง 2-3 บทสุดท้าย ในขณะที่ Kakao Webtoon คัดเลือกแต่พรีเมียมคอนเทนต์ให้แก่ลูกค้า และอนุญาตให้อ่าน 2-3 บทแรกฟรี และเริ่มคิดค่าใช้จ่ายจากบทที่ 4 เป็นต้นไป แต่ก็ยังมีทางเลือกให้เพิ่มเติม หากต้องการอ่านแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยผู้อ่านสามารถรอ 24 ชั่วโมง เพื่ออ่านบทต่อไปแบบฟรี ซึ่งรูปแบบธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้ Kakao Webtoon สร้างกําไรแซงหน้า LINE Webtoon ถึง 3 เท่า ทั้งนี้ นาย Kang ยังเชื่อใน ‘creative power’ ของไทย เห็นได้จากความสร้างสรรค์ของโฆษณาไทย โดยมองว่าไทยมีศักยภาพที่จะเป็นคลื่นด้าน soft power ต่อไปในภูมิภาคต่อจากเกาหลีใต้ สังเกตจากภาพยนตร์เรื่อง ‘ร่างทรง’ ที่เป็นความร่วมมือกัน ระหว่างผู้กํากับชาวไทยและเกาหลีใต้ ซึ่งประสบความสําเร็จมาก
.
ด้วยเหตุนี้ Kakao Webtoon จึงได้ริเริ่มยุทธศาสตร์ ‘Creative Thailand’เพื่อช่วยกระตุ้นและสนับสนุน local content ในไทย โดยผลงานแรกคือการนํานวนิยายและละครเรื่อง ‘บุพเพสันนิวาส’ มาสร้างเป็น webtoon (คาดเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้า) และจะร่วมมือกับศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีในประเทศไทย ในการนําเรื่องราวของทหารผ่านศึกไทยที่ร่วมรบในสงครามเกาหลีมาผลิตเป็น webtoon รวมทั้ง ในอนาคตบริษัทฯ มีแผนจะเปิดสตูดิโอ Kakao Webtoon ในไทย เพื่อขยายภารกิจด้านการเสาะหา ลงทุน และสนับสนุนลิขสิทธิ์ของผู้ผลิตคอนเทนต์ไทยและเกาหลีใต้ต่อไป นอกจากนี้ ทีม Kakao Webtoon ที่ประจําอยู่ที่ไทย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 30 คน ยังได้ใช้วิธีแสวงหาผู้ผลิตคอนเทนต์ชาวไทยเพิ่มเติม ได้แก่ นักเขียน นักวาดการ์ตูน จากเว็บบอร์ดต่าง ๆ เช่น Dek-D และ Pantip โดยบริษัทฯ ตั้งใจที่จะมอบสัดส่วนกําไรให้ผู้ผลิตอย่างเท่าเทียม เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ผลิตไทย ทั้งนี้ นาย Kang แจ้งว่า ปัจจุบันมีนักเขียนและนักวาดการ์ตูนชาวไทยที่มีศักยภาพอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นจํานวนมาก
.
ยุทธศาสตร์ ‘Creative Thailand’ ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญอย่างยิ่ง สำหรับนักผลิตคอนเทนต์ชาวไทยในการต่อยอดศักยภาพของตนเองในด้านงานคิดสร้างสรรค์ ยิ่งไปกว่านั้น การดัดแปลงละครไทยให้อยู่ในรูปแบบ Webtoon ถือเป็นการเพิ่มช่องทางผ่านสื่อออนไลน์ในรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจ และน่าดึงดูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเป้าหมายในประเทศอื่น ๆ ที่มีความชื่นชอบในบทละครของไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้สามารถเข้าถึงผลงานได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสทองในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
.
สถานเอกอัคราชทูต ณ กรุงโซล