เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 เอกอัครราชทูตไทยได้หารือกับผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศปานามาในมิติโอกาสความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทย – ปานามาโดยเอกอัครราชทูตไทยกล่าวว่า แม้ไทยและปานามาจะตั้งอยู่ห่างไกลกันแต่ก็มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด โดยในปีนี้เป็นปีครบรอบ 40 ปี “การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – ปานามา” จึงถือเป็นโอกาสให้ทั้งสองประเทศได้จัดกิจกรรมเพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะด้านการค้า ซึ่งขณะนี้ ไทยมีความสามารถในการผลิตสินค้ายุค “new normal” เช่น เครื่องมือทางการแพทย์ สินค้าที่เกี่ยวข้องกับ work from home หรือแม้กระทั่งอาหารแห่งอนาคต (super food) นอกจากนี้ ไทยสนใจที่จะแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จากความเชี่ยวชาญของปานามาด้านโลจิสติกส์ และการเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าในภูมิภาค เนื่องจากไทยเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียนด้วยเช่นกัน โดยไทยสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการคลองปานามา และการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษร่วมด้วย
ด้านผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศปานามายินดีที่ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าใหม่ ๆ ของไทย ซึ่งที่ผ่านมา ไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าทะเลรายใหญ่ โดยเฉพาะกุ้ง นอกจากนี้ ปานามายังสนใจเรียนรู้ด้านการปรับแต่งคุณภาพน้ำ (water treatment) จากไทย เนื่องจากขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศปานามาอยู่ระหว่างการจัดทำ blue agenda และ blue economy ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังผลักดันการทูตวิทยาศาสตร์ การทูตสิ่งแวดล้อม การทูตดิจิทัล ซึ่งประเด็นเหล่านี้ อาจเป็นโอกาสความร่วมมือระหว่างไทยกับปานามาต่อไปในอนาคต
ขณะนี้ ปานามาได้เริ่มผ่อนปรนมาตรการเดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย รวมถึงการวางแผนจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ EXPOCOMER ในช่วงเดือนมีนาคม 2566 โดยงานแสดงสินค้าฯ จะมุ่งเน้นสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งสินค้าและอาหารไทยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง สินค้าประเภทสิ่งทอ เครื่องประดับ ล้วนแต่เป็นสินค้าและบริการที่ไทยมีศักยภาพ ทั้งนี้ การที่ปานามามีจุดแข็งและแรงจูงใจสำหรับการลงทุนจากต่างประเทศ เช่น นโยบายและกฎหมายด้านภาษีที่เอื้อต่อนักลงทุนต่างชาติ เขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมถึงการใช้ปานามาเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้า จึงถือเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการและภาคเอกชนไทยได้ขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนในภูมิภาคต่อไป
ข้อมูล: สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก
เรียบเรียง: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์