วิกฤติเศรษฐกิจของปากีสถานในปัจจุบัน ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในปากีสถานต้องปิดสายการผลิต อีกทั้ง ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในปากีสถาน เช่น Suzuki, Honda และ Toyota ก็กำลังประสบกับความท้าทายและต่อสู้กับภาวะขาดทุน เนื่องจากยอดขายรถยนต์ลดลงอย่างมากจากกำลังซื้อลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ราคารถยนต์ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องลดปริมาณการผลิตรถยนต์ในบางรุ่น และปิดสายการผลิตในบางประเภท ทั้งนี้บริษัท Indus Motor Company (IMC) ผู้ผลิตและประกอบรถยนต์ Toyota ในปากีสถานได้ประกาศปิดสายการผลิตตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2562 จนถึงสิ้นเดือนแล้ว ปรากฏการณ์ดังกล่าวนับเป็นสัญญาณอันตรายสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ และการจ้างงานท้องถิ่นในปากีสถาน
[su_spacer]
เมื่อเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา บริษัท ผู้ผลิตรถยนต์ Suzuki ซึ่งครองตลาดปากีสถานอยู่ ได้ประกาศลดจำนวนการผลิต และแจ้งให้ตัวแทนจำหน่ายหยุดรับการจองรถยนต์บางประเภทเพราะ บริษัทไม่อาจแบกรับภาระขาดทุนต่อไปจนทำให้ต้องปิดสายการผลิตของรถยนต์บางประเภทเป็นการชั่วคราว ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ Honda ก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันทำให้ต้องยกเลิกสายการผลิตกะที่2 (Second Shift Schedule) เป็นเหตุให้มีผู้ตกงานประมาณ 4 พันคน ซึ่งโดยรวม จนถึงขณะนี้ มีผู้ตกงานอันเนื่องมาจากการปิดสายการผลิตแล้วเป็นจำนวนถึง 36,000 คน
[su_spacer]
นอกจากนี้ ภาวะวิกฤติเงินรูปีฯ ที่อ่อนค่าลง ก็มีส่วนที่ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในปากีสถานต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด ในขณะเดียวกันรัฐบาลก็ได้ทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลงด้วยการจัดเก็บภาษีสรรสามิต (Federal Excise Duty – FED) ร้อยละ 2.5 – 2.7 เพิ่มเติม รวมทั้งปรับอัตราภาษีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำให้ราคาขายปลีก รถยนต์สูง เพราะเป็นทางเดียวที่ผู้ประกอบการจะประคองตัวเองได้ จนในที่สุดราคาขายปลีกสูงเกินกำลังซื้อของผู้ซื้อทั่วไป ฉะนั้น รัฐบาลปากีสถาน ควรต้องรีบหาทางออกให้แก่ผู้ผลิตและผู้ประกอบรถยนต์ภายใน ประเทศเป็นกรณีเร่งด่วน เนื่องจากเป็นภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญของปากีสถาน ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในขณะนี้ ทำให้จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น ประกอบกับ ในระยะปัจจุบันเป็นระยะที่ผู้ประกอบการรายใหม่กำลังจะเข้าสู่ตลาดในประเทศ รัฐบาลจึงต้องสร้างบรรยากาศให้เอื้อต่อการลงทุน ด้วยการออกนโยบายที่ต่อเนื่องและควรยกเลิกภาษี FED เพื่อให้อุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัวได้อีกครั้งหนึ่งโดยเร็ว
[su_spacer]
จากวิกฤติ เศรษฐกิจ ปัจจุบัน ทำให้แรงงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ตกงานถึงร้อยละ 30-40 ทำให้จำนวนผู้ยากจนที่อยู่ต่ำกว่าระดับความยากจนเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลปากีสถานโดยพรรค Pakistan Tehreek-e-Insaf (PTI) ได้เคยประกาศตอนหาเสียงว่า จะสร้างงานจำนวน 1 ล้านงาน แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันที่เติบโตเพียงร้อยละ 3.3 จากร้อยละ 5.4 เมื่อปีที่ผ่านมา และอาจจะลดลงเหลือเพียง 2.4 ในปีงบประมาณปัจจุบัน นอกจากนี้ Dr. Hafiz A. Pasha นักวิจัยเศรษฐกิจอาวุโสและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังปากีสถานยังให้ความเห็นว่า เมื่อปีที่ผ่านมาแรงงานจำนวน 1 ล้านคน ต้องประสบกับภาวะตกงาน และปีนี้ คาดว่า แรงงานจำนวนอีก 8 แสน – 1 ล้านคน จะต้องประสบกับภาวะตกงาน และเห็นว่าลักษณะการปรับเปลี่ยนการจัดเก็บภาษีนั้นมีความบกพร่องจนการดำเนินการดังกล่าวทำให้ประชาชนปากีสถานราว 4 ล้านคนต้องกลายเป็นคนยากจน
[su_spacer]
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองการาจี