คณะรัฐมนตรีปากีสถานมีมติเห็นชอบในกรอบนโยบาย E – Commerce ของประเทศเป็นครั้งแรก เพื่อปูทางสําหรับการส่งเสริมการค้าดิจิทัล (Digital Trade) และการทําธุรกิจภายในประเทศ สรุปได้ดังนี้
[su_spacer]
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ปากีสถาน ได้นําร่างนโยบาย E – Commerce หลังจากที่ได้ยกร่างและปรับแก้ตามข้อเสนอแนะของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีปากีสถาน เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยร่างนโยบายดังกล่าวครอบคลุมนโยบายด้าน E-Commerce หลัก 9 ด้าน ได้แก่ (1) กฎระเบียบเกี่ยวกับ E – Commerce และการอํานวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง (2) การเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) และการเปลี่ยนโครงสร้างการชําระเงินเป็นระบบดิจิทัล (3) การเพิ่มขีดความสามารถของเยาวชนและธุรกิจ SMEs ผ่านโครงการส่งเสริมธุรกิจและการพัฒนาการค้า (4) การคุ้มครองผู้บริโภค (5) โครงสร้างภาษีที่เกี่ยว E-Commerce (6) โครงสร้างพื้นฐานด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการให้บริการด้านโทรคมนาคม (7) การป้องกันข้อมูลการทําธุรกิจและการลงทุน (8) ความเชื่อมโยงกับระบบ E-Commerce โลก (Global E-Commerce) และ (9) การมีส่วนร่วมในการเจรจาพหุภาคี นอกจากนี้ นโยบายดังกล่าวยังได้ระบุถึงการจัดตั้งคณะกรรมการ National e-Commerce Council และหน่วยงานอื่น ๆ ที่ทําหน้าที่ตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้นโยบายดังกล่าวอย่างเป็นระบบ ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบต่อร่างนโยบายดังกล่าวแล้ว
[su_spacer]
ร่างนโยบายดังกล่าว มีการกล่าวถึงอัตราการขยายตัวของ E-Commerce ที่ร้อยละ 53.7 พบว่าการทําธุรกรรมในลักษณะ Post Paid และการชําระเงินปลายทาง (Cash on Delivery-COD) มีมูลค่ารวมอยู่ที่ร้อยละ 50 ของการทําธุรกรรมทั้งหมด ภายใต้นโยบายธุรกิจ E – Commerce ดังกล่าว รัฐบาลปากีสถานจะออกข้อบังคับให้ธุรกิจที่มีรายได้จากการทําธุรกิจ E-Commerce ตั้งแต่ 1 ล้านรูปีฯ (ประมาณ 6,500 ดอลลาร์สหรัฐ) ขึ้นไป/ต่อปี จะต้องจดทะเบียนกับ Securities and Exchange Commission of Pakistan (SECP) (คณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของปากีสถาน) และจําเป็นต้องมีสำนักงานในปากีสถานเพื่อการตรวจสอบ
[su_spacer]
ปัจจุบัน ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในปากีสถานมีอยู่จํานวน 161 ล้านคน ผู้ใช้บริการ 3G/4G มีอยู่จํานวน 70 ล้านคน ในขณะที่จํานวนผู้ใช้บริการระบบสื่อสาร Broadband มีอยู่จํานวน 72 ล้านคน นอกจากนี้ ภายใต้นโยบาย E – Commerce บริษัทไปรษณีย์ปากีสถาน (Pakistan Post) จะให้บริการส่งไปรษณีย์ด่วน (EMS Plus) เพื่อการส่งออกที่รวดเร็วไปยังไทย ซาอุดีอาระเบีย ยูเออี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันข้อมูลและการลงทุน ทั้งนี้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศปากีสถานกําลังพัฒนาระบบ Cloud ภายใต้นโยบาย Cloud (Cloud Policy) และการออก พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูล (Data Protection Act) ก็จะสร้างความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
[su_spacer]
(สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองการาจี)