ไทยและโอมานเป็นมิตรประเทศมีความสัมพันธ์ทางการทูตมาแล้ว 41 ปี ในตลาดภูมิภาคตะวันออกกลาง โอมานเป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ของไทย เป็นผู้ส่งออกน้ำมันที่สำคัญ และมีนโยบายส่งเสริมการค้า การลงทุนจากต่างชาติอย่างเสรีที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค ปี 2564 มูลค่าการค้าไทย-โอมานขยายตัวถึงร้อยละ 99 รวมมูลค่า 58,361 ล้านบาท จากเดิมที่ 29,260 ล้านบาทในปี 2563 และเพียงช่วง 2 เดือนแรกของปี 2565 การส่งออกสินค้าไทยไปยังโอมานยังขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.7 โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนจากปีที่ผ่านมา ได้แก่ เครื่องดื่ม (ร้อยละ 586.2) ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง (ร้อยละ 82.4) เครื่องสําอาง สบู่และผลิตภัณฑ์รักษาผิว (ร้อยละ 34.4)
เป็นที่น่าสังเกตว่าสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์อาหารอุปโภคบริโภคและอื่น ๆ ของไทยนั้น แม้จะมีราคาสูงกว่าสินค้านําเข้าจากประเทศคู่แข่งอื่น แต่ก็ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวโอมานและชาวต่างชาติที่พํานักอยู่ในโอมานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสินค้าที่นิยมนำเข้าจากไทย และมีแนวโน้มที่ดี ได้แก่ เครื่องปรุงอาหาร ผลไม้ เครื่องสําอาง และสมุนไพร
ทั้งนี้ ชาวโอมานให้ความสําคัญอย่างมากต่อคุณภาพของสินค้าที่ต้องได้มาตรฐาน ตรงกับคุณลักษณะที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ วัฒนธรรมการทําธุรกิจกับชาวโอมานโดยทั่วไปจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและมิตรภาพระหว่างกัน
จากการพบหารือระหว่างสถานเอกอัครราชทูต ณ เมืองมัสกัต กับภาคเอกชนโอมาน พบว่ามีการนำเข้าสินค้าไทยหลายประเภท ที่น่าสนใจ ดังนี้
- ผลไม้จากไทยตามฤดูกาล เช่น ทุเรียน แก้วมังกร มะปราง ลิ้นจี่ เงาะ มังคุด มะม่วง น้อยหน่า ฝรั่งดอง สับปะรดภูแล มะม่วงน้ำดอกไม้ และผลไม้อื่น ๆ โดยทุเรียนและมะม่วงเป็นผลไม้ที่ชาวโอมานชื่นชอบ รวมถึงเครื่องปรุงรส อาหารกระป๋อง ภาชนะพลาสติกและสเตนเลสด้วย
- ผลิตภัณฑ์บํารุงผิวเป็นที่นิยมในหมู่สุภาพสตรีชาวโอมาน โดยเฉพาะในเมืองซาลาลาห์ซึ่งนิยมชมชอบเครื่องสําอางจากไทยว่า มีคุณภาพดีและราคาไม่แพง ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าสตรีวัยรุ่น แม่บ้าน และกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลาง
อนึ่ง จากการหารือกับห้างสรรพสินค้าพบว่า สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนในปัจจุบัน ได้ส่งผลให้สินค้าน้ำมันพืช และข้าวสาลีเริ่มขาดแคลนในหมู่ผู้นำเข้าเนื่องจากประเทศผู้ส่งออกต้นทางประสบปัญหาและหยุดส่งออก จึงต้องแสวงหาแหล่งสินค้าใหม่เพื่อทดแทนปริมาณที่ขาดหายไป ในช่วงนี้ จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าวไปยังตลาดโอมาน ด้วยความนิยมและความเชื่อมั่นต่อสินค้าไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วซึ่งช่วยเสริมโอกาสให้แก่สินค้าไทยยิ่งขึ้น และด้วยเหตุนี้เอง การรักษามาตรฐานและภาพลักษณ์ ชื่อเสียงของสินค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยรักษาความไว้วางใจและความนิยมไทยในโอมานต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมัสกัต ที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมด้านวัฒนธรรมและการส่งเสริมสินค้าไทย เช่น Thai Festival และ Thai Product Week ซึ่งช่วยเพิ่มพูนข่ายความร่วมมือระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับภาคเอกชนโอมานได้อย่างกว้างขวาง จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ในการเข้ามาร่วมทําธุรกิจในโอมาน ซึ่งถือเป็นตลาดใหม่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่หน่วยงานรัฐมีบทบาทสําคัญในการช่วยแนะนําหุ้นส่วนท้องถิ่นที่น่าเชื่อถือแก่ผู้ประกอบการ ซึ่งจะช่วยปูทางไปสู่ความร่วมมือในระยะยาวได้เป็นอย่างดี
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมัสกัต