ตามคาดการณ์ของ CPB (Netherlands Bureau for Economic Analysis) เศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์ในปี 2560 เติบโตขึ้นร้อยละ 3.2 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงที่สุดและเป็นครั้งแรกที่เกินร้อยละ 3 นับแต่วิกฤติการเงินเมื่อปี 2550 และถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมากสำหรับประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยมีปัจจัยมากจากการขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศและการส่งออก โดยคู่ค้าสำคัญของเนเธอร์แลนด์ ได้แก่ เยอรมนี เบลเยี่ยม จีน สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส นอกจากนนี้อัตราการว่างงานลดลงจากร้อยละ 6 ในปี 2559 เหลือร้อยละ 4.9 ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2550 เช่นกัน ออีกทั้งตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ก็แสดงถึงเสถียรภาพ อาทิ ดุลการคลังของรัฐบาลอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และหนี้สาธารณะลดเหลือร้อยละ 56 ของ GDP[su_spacer size=”20″]
เนเธอร์แลนเป็นหนึ่งในประเทศที่จะได้รับผลกระทบจาก Brexit มากที่สุด โดย CPB เคยประเมินว่า Brexit อาจจะส่งผลให้ GDP ของเนเธอร์แลนด์ลดลงถึงร้อยละ 1.2 หรือมากกว่าภายในปี 2573 เนื่องจากเนเธอร์แลนด์มีความสัมพันธ์ทางเศรษกิจใกล้ชิดกับสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 รองจากเยอรมนี ในปี 2558 การส่งออกของเนเธอร์แลนด์ไปสหราชอาณาจักรมีมุลค่ากว่า 2 หมื่นล้านยูโรหรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3 ของ GDP และประมาณร้อยละ 9 ของการส่งออกทั้งหมดของเนเธอร์แลนด์ ดังนั้นผลประโยชน์ที่สำคัญของเนเธอร์แลนด์ในการเจรจา Brexit จึงอยู่ที่การจัดทำทางการค้ากับสหราชอาณาจัหร เพื่อรักษาระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้เคียงกับปัจจุบันมากที่สุด ตลอดจนการคุ้มครองสิทธิของพลเมืองของชาวดัตช์ในสหราชอาณาจักร ซึ่งมีมากถึง 73,000 คน และภาคเอกชนดัตช์ที่ลงทุนและทำธุรกิจกับสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเหมืองแร่และการขุดเจาะพลังงาน อุตสาหกรรมการผลิต และการเกษตร รวมถึงรักษาผลประดยชน์ของเนเธอร์แลนด์เกี่ยวกับบริษัทข้ามชาติที่เป็นการร่วมทุนระหว่างเนเธอร์แลนด์-สหราชอาณาจักร อาทิ กลุ่ม Royal Dutch Shell หรือกลุ่ม Unilever[su_spacer size=”20″]
สำหรับแนวโน้มทางเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์ในปี 2561 CPB ประเมินว่าการส่งออกและการบริโภคที่ขยายอย่างต่อเนื่องกอปรกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่จะส่งผลให้เศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์ยังเติบโตต่อเนื่องในปี 2561 ที่อัตราร้อยละ 3.1 อัตราการว่างงานจะลดเหลือร้อยละ 4.9 ขณะที่ดุลการคลังของรัฐบาลคงตัวอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และหนี้สาธารณะจะลดเหลือร้อยละ 56 ของ GDP โดย CPB ประเมินว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์จะเริ่มชะลอตัวในปี 2562 ที่ร้อยละ 2.3[su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้นโยบายทางเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์ในระยะต่อไปจะยังมีจุดเน้นเรื่องการส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและการตอบสนองความท้าทายทางสังคมใน 3 หัวข้อหลัก ได้แก่ พลังงานและความยั่งยืน น้ำ เกษตรและอาหาร และเทคโนโลยีขั้นสูง ตลอดจนการส่งเสริมธุรกิจ Start-ups และ SMEs ซึ่งเป็นตัวจักรสำคัญในการส่งเสริมนวัตกรรมและเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์[su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก