โมซัมบิกกําลังเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจในภูมิภาคแอฟริกาทั้งในแง่ของการเป็นจุดเริ่มต้นของการ กระจายสินค้าทั้งในโมซัมบิตและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ ในแง่ของตลาดที่มีความต้องการที่สูงขึ้น รวมทั้งศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศที่มีแนวโน้มที่จะพัฒนาอย่างมากในอนาคต (อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 3.2 และอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 6.5) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนาในอุตสาหกรรมถ่านหิน อลูมิเนียม อุตสาหกรรมทรัพยากรเหมืองแร่ และ อุตสาหกรรมด้านพลังงานและก๊าซธรรมชาติ [su_spacer size=”20″]
ล่าสุด สถาบันสถิติแห่งชาติของโมซัมบิก (Institute Nacionnal de Estatistica – National Institute of Statistics of Mozambique) ได้เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับการนําเข้าและการส่งออกของโมซัมบิกในปี 2560 ว่าประเทศไทยคือประเทศที่โมซัมบิกนำเข้าสินค้ามากที่สุดเป็นอันดับ 8 (เป็นอันดับ 3 เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ จากภูมิภาคเอเชีย) โดยมีมูลค่าการนําเข้าทั้งสิ้น 132 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ที่นําเข้าจากไทยคือ ข้าว สินค้าทางการเกษตร และเสื้อผ้า จึงนับเป็นโอกาสทองที่ไทยจะสามารถต่อยอดการส่งออกสินค้ามายังทั้งโมซัมบิกและประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ที่มีกําลังซื้อเพิ่มมากขึ้นเป็นลําดับ [su_spacer size=”20″]
ขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาปูโต ร่วมกันกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสํานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพริทอเรีย สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ เห็นว่าเป็นโอกาสสำคัญที่จะขยายการค้าระหว่างไทยและโมซัมบิกให้เพิ่มมากขึ้นจึงได้ร่วมกันจัดโครงการเพื่อนำคณะนักธุรกิจไทยมาเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและอุตสาหกรรมแห่งกรุงมาปูโตประจําปี 2561 หรือ FACIM 2018 ระหว่างวันที่ 26 – 29 สิงหาคม 2561 และได้จัดกิจกรรมการเจรจาการค้า (Thailand – Mozambique Business Matching) เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาปูโตด้วย ทั้งนี้ ผลการเจรจาการค้าเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2561 ในภาพรวมถือว่าเป็นที่น่าพอใจ โดยคาดการณ์การสั่งซื้อภายใน 1 ปี มีมูลค่าอยู่ที่ 1.245 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 41.1 ล้านบาท และสินค้าที่มียอดสั่งซื้อสูง ได้แก่ อุปกรณ์ตัวล็อค เครื่องทําความเย็น ชิ้นส่วนยานยนต์ ข้าว และเครื่องปรุงรสส่วนสินค้าที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับการสั่งซื้อในอนาคต อาทิ สินค้ารถไถเดินตามเครื่องสีข้าวขนาดใหญ่ และตู้แช่แข็ง และตู้แช่เย็น [su_spacer size=”20″]
ท่ามกลางการแข่งขันทางการค้าในตลาดโลกที่สูงขึ้น และแอฟริกากําลังเป็นจุดหมายสําคัญที่โลกต่างให้ความสนใจในการมาขยายการค้าและการลงทุนมากขึ้น จึงถือว่าเป็นโอกาสทองที่สําคัญที่นักธุรกิจไทยจะเข้ามาทําการค้ากับฝ่ายโมซัมบิกให้มากขึ้น ทั้งนี้ ในปัจจุบัน โมซัมบิกเป็นประเทศที่ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนในด้านพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน และโรงแรม โดยมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นจํานวนที่สูงที่สุดในภูมิภาคแอฟริกา [su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้ โมซัมบิกมีแนวโน้มในการทําการค้ากับประเทศในภูมิภาคเอเชียมากขึ้น และเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ จากภูมิภาคเอเชีย ไทยเป็นอันดับ 3 ที่โมซัมบิกได้นําเข้าสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าว อันจะสามารถนำไปสู่การส่งออกสินค้าอาหารและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรสู่โมซัมบิก และการขยายการลงทุนของผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมด้านการเกษตรในโมซัมบิก [su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาปูโต