การขยายตัวทางเศรษฐกิจ
.
เศรษฐกิจมัลดีฟส์ ชะลอตัวร้อยละ 32.2 ในปี 2563 โดยในไตรมาสที่ 2 ชะลอตัวถึง ร้อยละ 51.6 เนื่องจากรัฐบาลมัลดีฟส์ ประกาศปิดประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของสถานการณ์ COVID-19 ตั้งแต่ วันที่ 27 มี.ค. 2564 ก่อนที่จะกลับมาขยายตัวไตรมาสที่ 3 และ 4 หลังจากรัฐบาลมัลดีฟส์ ประกาศเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. 2563 เป็นต้นมาเพื่อฟื้นฟูธุรกิจภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ
.
ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในมัลดีฟส์ มีพัฒนาการในทิศทางบวก โดยมีการฉีดวัคซีน COVID-19 โดสแรกให้แก่ประชาชน และชาวต่างชาติที่ทํางาน หรือ มีถิ่นพํานักที่มัลดีฟส์ ไปแล้วกว่าร้อยละ 52 นอกจากนี้ นโยบายการฟื้นฟูธุรกิจภาคการท่องเที่ยวที่ไม่กําหนดให้นักท่องเที่ยวต้องกักโรคเมื่อเดินทางมาถึงมัลดีฟส์ แต่ใช้ประโยชน์จากสภาพภูมิศาสตร์ที่เป็นเกาะของมัลดีฟส์ (one island one resort) ซึ่งส่งผลให้นักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาถึงมัลดีฟส์ และตรงไปพํานักที่เกาะรีสอร์ตมีสภาพเสมือนกักโรคแยกจากชุมชนหรือเกาะที่อาศัย (habited island) โดยปริยาย ส่งผลให้มีจํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวที่มัลดีฟส์เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกองทุน IMF ได้คาดการณ์ว่าการขยายตัวของ GDP ของมัลดีฟส์ ในปี 2564 จะเพิ่มเป็นร้อยละ 18.9 (World Economic Outlook เม.ย. 64) ซึ่งใกล้เคียงกับการคาดการณ์ร้อยละ 17 ของธนาคารโลก (Global Economic Prospects ม.ค. 64) ในขณะที่ธนาคาร ADB คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจมัลดีฟส์จะขยายตัวที่ร้อยละ 10.5 (Asian Development Outlook ก.ย. 63)
.
การท่องเที่ยว
.
ตั้งแต่รัฐบาลมัลดีฟส์เปิดประเทศเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2563 ภาคการท่องเที่ยวของมัลดีฟส์เริ่มพัฒนาในทิศทางบวกอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปี 2564 จนถึง 15 เม.ย. 2563 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังมัลดีฟส์จํานวน 347,421 ราย ส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติจากอินเดีย และรัสเซีย และคาดว่าน่าจะมีจํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในปี 2564 ถึง 1 ล้านราย ทั้งนี้รัฐบาลมัลดีฟส์ตั้งเป้าหมายยอดนักท่องเที่ยวปีนี้ ไว้ที่จํานวน 1.5 ล้านราย อย่างไรก็ดี จํานวนนักท่องเที่ยวในปีนี้ยังคงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ COVID-19 และการจํากัดการเดินทางระหว่างประเทศของประเทศต่าง ๆ
.
ในภาคการท่องเที่ยว รัฐบาลมัลดีฟส์มีดําริริเริ่มโครงการ “3V – Visit, Vaccination, Vacation” หรือโครงการ “Vaxication”เพื่อกระตุ้นธุรกิจภาคการท่องเที่ยวของมัลดีฟส์เพิ่มมากขึ้น โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังมัลดีฟส์ สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีน COVID-19 ได้ โดยในระหว่างการฉีดวัคซีน COVID-19 นักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อน และทํากิจกรรมทางน้ําบนเกาะรีสอร์ตที่ตนพักอยู่ได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลว่าวัคซีน COVID-19 ที่ภาคการท่องเที่ยวมัลดีฟส์ จะใช้ในโครงการฯ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวนี้จะเป็นวัคซีนยี่ห้ออะไร และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเริ่มต้นดําเนินโครงการนี้เมื่อใด
.
การค้าระหว่างประเทศ
.
มูลค่าการค้าระหว่างประเทศ ของมัลดีฟส์ หดตัวลงจาก 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2562 ลดลงเป็น 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่กระทบทั้งภาคการนําเข้าและส่งออก โดยยอดการนําเข้าสินค้าของมัลดีฟส์ ในปี 2563 ลดลงร้อยละ 36 เนื่องจากภาวะ ชะงักงันของโครงการก่อสร้างต่าง ๆ จากการประกาศ Curfew ทั่วประเทศ ส่งผลให้มีการนําเข้าปูนซีเมนต์ลดลง มาตรการปิดประเทศ และเกาะรีสอร์ตต่าง ๆ ปิดทําการเป็นการชั่วคราว ในช่วงระหว่างการบังคับใช้มาตรการปิดประเทศส่งผลให้มีการนําเข้าอาหารและน้ํามันลดน้อยลง สําหรับยอดการส่งออกสินค้าลดลงร้อยละ 20 เนื่องจากปริมาณการส่งออกของน้ํามันเครื่องบินเจ็ท (jet fuel) น้อยลงเพราะไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ อย่างไรก็ดี มูลค่าการส่งออกสัตว์น้ํา เช่น ปลา และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสัตว์น้ํา มีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ในช่วงไตรมาสที่ 3 – 4 ของปี 2563 (ข้อมูลจาก World Bank)
.
การค้าไทย-มัลดีฟส์ ในปี 2563 มีมูลค่ารวม 125.22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการส่งออกจากไทย 55.43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 53.62% จากปี 2562 และเป็นการนําเข้าจากมัลดีฟส์ 69.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.11% จากปี 2562 โดยไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้า 14.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกที่สําคัญของไทย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็กและผลิตภัณฑ์ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องนุ่งห่ม เฟอร์นิเจอร์ เครื่องจักรกล ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งหรือแห้ง ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ สบู่ ผลิตภัณฑ์รักษาผิว เครื่องสําอาง ปูนซีเมนต์ สินค้านําเข้าสําคัญของไทย ได้แก่ สัตว์น้ําสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสําเร็จรูป
.
การเงิน
.
ยอดเงินทุนสํารองระหว่างประเทศของมัลดีฟส์ ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2560 มีมูลค่า 844.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเพิ่มขึ้นจากในเดือน ส.ค. 2563 ที่มีเงินทุนสํารองฯ มูลค่า 569.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลจากการเปิดประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในมัลดีฟส์อีกครั้ง ทั้งนี้ ในเดือน ก.ค. 2562 Maldives Monetary Authority (MMA) ได้จัดทําข้อตกลง currency Swap กับ Reserve Bank of India ภายในวงเงิน 400 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐฯ โดย MMA ได้ดําเนินการตามข้อตกลงฯ (activate) เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ จาก COVID19 ในปี 2563 โดยแบ่งออกเป็น 2 งวด ได้แก่ ในเดือน เม.ย. 2563 จํานวน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในเดือน ธ.ค. 2563 อีกจํานวน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และได้ออกพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
รายได้หลักของมัลดีฟส์มาจากภาคธุรกิจการท่องเที่ยว รัฐบาลมัลดีฟส์จึงได้เร่งฉีดวัคซีน COVID-19 ให้บุคลากร และผู้ประกอบการในภาคธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นกลุ่มแรกทันที ภายหลังจากที่ฉีดวัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่ Frontlines โดยในปัจจุบันบุคลากรและผู้ประกอบการในภาคธุรกิจการท่องเที่ยวจํานวนมากกว่าร้อยละ 90 ได้รับการฉีดวัคซีน COVID-19 โดสแรกแล้ว โดยได้มีพนักงานชาวไทยที่ทำงานในกิจการโรงแรมที่ได้รับการฉีดวัคซีน COVID-19 จากรัฐบาลมัลดีฟส์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เมื่อหันกลับมามองที่ประเทศไทยของเรา ซึ่งเป็นประเทศที่พึ่งพารายได้จากภาคการท่องเที่ยวเช่นกัน โดยในปัจจุบันทางรัฐบาลไทยได้มีการพิจารณาทำ ‘Phuket Tourism Sandbox’ โดยจะมีกำหนดเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว โดยไม่ต้องทำการกักตัวภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ เพื่อฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่โดนผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตโควิด-19 ดังนั้นผู้ประกอบการไทยในภาคการท่องเที่ยวสามารถศึกษาตัวอย่างการปรับธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาด และพิจารณาแนวทางใหม่ ๆ ในการดำเนินธุรกิจเพื่อเตรียมพร้อมรับการเปิดประเทศ และบริบทของตลาด และความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ