นายโชว กอน เยว (Chow Kon Yeow) เข้ารับตําแหน่งมุขมนตรีแห่งรัฐปีนัง และได้เตรียมผลักดันโครงการต่าง ๆ ทั้งที่เคยมีในอดีต และที่กำลังจะเกิดขึ้นให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยได้มีการเร่งรัดโครงการถมทะเลและสร้างเกาะทางตอนเหนือของเกาะปีนัง (Seri Tanjung Pinang Project – STP) ซึ่งเป็นแผนพัฒนาพื้นที่ตามแนวชายทะเลทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะปีนังที่มีการเริ่มถมทะเลตั้งแต่ราว 25 ปีก่อน โดยในปี 2546 บริษัท Tanjung Pinang Development (TPD) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Eastern & Oriental (EXO) ได้รับสัมปทานให้ดําเนินการการก่อสร้าง phase 1 แล้วเสร็จในปี 2549 มีพื้นที่ 240 เอเคอร์ ซึ่งพัฒนาเป็นเขตที่พักอาศัยราคาแพง และห้างร้าน และ phase 2 มีพื้นที่ 760 เอเคอร์ เป็นการสร้างเกาะใหม่ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของ phase 1 ทั้งนี้ ใน phase 1 บริษัท TPD ได้ยกที่ 20 เอเคอร์ให้รัฐบาลปีนัง เพื่อใช้สําหรับโครงการสร้างส่วนเชื่อมต่อถนนวงแหวนรอบนอก โดยรัฐบาลปีนังได้เพิ่มเนื้อที่ 20 เอเคอร์ให้ TPD ใน STP2 (จากสัมปทานเดิม 740 เอเคอร์ เป็น 760 เอเคอร์) และ TPD จะถมทะเลนอกฝั่ง Gurney drive เพื่อสร้าง Gurney Wharf พื้นที่ 131 เอเคอร์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพื่อให้รัฐบาลปีนังสร้างเป็นสวนสาธารณะและแหล่งพักผ่อนของประชาชนในรัฐปีนัง โดยเมื่อต้นเดือน มิ.ย. 2561 บริษัท TPD ได้มอบหมายให้บริษัท Kerjaya Prospek (M) ก่อสร้างสะพานข้ามทะเลเชื่อมจากถนน Seri Tanjung Pinang บนเกาะปีนังไปยังเกาะใหม่ Seri Tanjung Pinang Phase 2 มูลค่าสัญญา 138.6 ล้านริงกิต โดยจะเริ่มก่อสร้างในวันที่ 11 มิ.ย. 2561 และใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 27 เดือน ซึ่งมีกําหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 10 ก.ย. 2563[su_spacer size=”20″]
นอกจากนี้ ยังได้มีการดําเนินการตามแผนแม่บทการขนส่งของรัฐปีนัง (Penang Transport Master Plan – PTMP) ที่ริเริ่มในปี 2556 โดยรัฐบาลปีนังร่วมกับ Northern Corridor Implementation Authority (NCIA) มอบให้บริษัทHalcrow ศึกษาและเสนอแผนแม่บทฯ และได้เลือกบริษัท SRS Consortium ให้เป็น Project Delivery Partner โดยได้เสนอเกี่ยวกับแหล่งเงินสนับสนุนโครงการ และกําหนดให้มีการถมทะเลและสร้างเกาะเทียมขึ้น 2 – 3 เกาะนอกชายฝั่งทางใต้ของปีนัง (PSR) เพื่อให้เอกชนพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่อยู่อาศัย ย่านธุรกิจ อุตสาหกรรม ในรูปแบบ smart city และนํารายได้จากการนี้ไปดําเนินโครงการตามแผนแม่บทการขนส่งฯ ดังกล่าว โดยมุขมนตรีแห่งรัฐปีนัง นายโชว กอน เยว (Chow Kon Yeow) ได้กล่าวเกี่ยวกับแผนแม่บท PTMP ว่า รัฐบาลปีนังจะขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ (นายลิม กวน เอง อดีตมุขมนตรี) ช่วยผลักดันให้รัฐบาลกลางอนุมัติโครงการต่าง ๆ ตามแผนแม่บทฯ โดยมีโครงการที่รัฐบาลปีนังให้ความสําคัญอันดับแรก ๆ สามโครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟรางเบา LRT โครงการเชื่อมเกาะปีนังกับแผ่นดินใหญ่ (Penang Island Link – PIL) และ โครงการถมทะเลด้านใต้ (Penang South Reclamation – PSR) โดยโครงการ LRT รัฐบาลปีนังได้เสนอโครงการต่อคณะกรรมการขนส่งทางบก (Land Public Transport Commission – SPAD) ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2559 และจะมีการผลักดันเรื่องนี้ต่อไป สําหรับโครงการ PIL นั้น การศึกษารายละเอียดยังไม่เสร็จสิ้น โดยรัฐบาลปีนังจะเร่งรัดให้ SRS Consortium ซึ่งเป็น Project Delivery Partner – PDP ดําเนินการศึกษารายละเอียดให้แล้วเสร็จเพื่อเสนอขออนุมัติจากกรมสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาเลเซีย และโครงการถมทะเลฯ (PSR) ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการด้านเทคนิคของคณะกรรมการวางแผนทางกายภาพของชาติ (National Physical Planning Council)[su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้ รัฐบาลปีนังเห็นว่าโครงการเกาะเทียมนี้ นอกจากจะได้เงินในการสนับสนุนการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจโดยรวมของปีนังในระยะ 30 – 50 ปี ข้างหน้าให้ก้าวหน้าและยั่งยืน เนื่องจากเกาะเทียมใกล้เคียงกับย่านอุตสาหกรรมที่มีอยู่และใกล้สนามบิน นานาชาติปีนังด้วย[su_spacer size=”20″]
นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2561 นาย Zairit Khir Johari มนตรีแห่งรัฐด้านงานโยธา สาธารณูปโภค และการบรรเทาอุทกภัย (Public Works, Utilities and Flood Mitigation) กล่าวว่า รัฐบาลปีนังได้เสนอโครงการบรรเทาอุทกภัยในรัฐปีนังในระยะ 5 ปีข้างหน้า จํานวน 13 โครงการ รวมมูลค่า 1 พันล้านริงกิต ต่อรัฐบาลกลาง โดยมีโครงการเร่งด่วน ได้แก่ โครงการบรรเทาอุทกภัยจากแม่น้ำปีนัง ซึ่งได้ดําเนินการ phase 1 เสร็จสิ้นเมื่อปี 2542 แต่ยังไม่ได้มีการดําเนินการต่อ ขณะนี้ต้องดําเนินการ phase 2 อย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาให้ดีขึ้น โดยในชั้นนี้ได้ตั้งงบประมาณ 150 ล้านริงกิต ซึ่งประกอบด้วย การสร้างเขื่อนกั้นน้ำทะเลที่ปากแม่น้ำ รวมถึงการขุดลอกขยายแม่น้ำปีนัง 3 ก.ม. และพัฒนาลําน้ำสาขา 6 สาย ในความยาว 1 ก.ม. ของแต่ละสาย รวมทั้งโครงการป้องกันน้ำท่วมในอําเภอบาลิกปุเลาอีก 3 โครงการ มูลค่า 28 ล้านริงกิตด้วย ซึ่งในระหว่างที่รองบประมาณจากรัฐบาลกลางนี้ รัฐบาลปีนังได้จัดสรรงบประมาณสําหรับโครงการป้องกันน้ำท่วมแล้ว 150 ล้านริงกิต สําหรับระยะเวลา 36 เดือนข้างหน้า โดยรัฐบาลได้ประเมินว่าโครงการที่จะสามารถป้องกันน้ำท่วมจากแม่น้ำปีนังได้ครบถ้วนสมบูรณ์โครงการเดียวนั้นต้องมีงบประมาณทั้งสิ้นราว 600 ล้านริงกิต[su_spacer size=”20″]
รัฐบาลปีนังมีความหวังว่าในขณะนี้รัฐบาลกลางซึ่งมาจากพรรคการเมืองกลุ่มเดียวกับตน จะอนุมัติการดําเนินโครงการเร่งด่วนต่าง ๆ ได้เร็วขึ้นกว่าในอดีต ถึงแม้ว่ารัฐบาลกลางชุดใหม่นี้ได้ประกาศ ทบทวนโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการที่ได้ริเริ่มโดยรัฐบาลชุดก่อน โดยนายโชว กอน เยว มุขมนตรีรัฐปีนัง ได้กล่าวว่าโครงการขนาดใหญ่ของปีนังได้แก่การขนส่งมวลชนต่าง ๆ นั้น จะมีรายได้จากการพัฒนาเกาะเทียมในทางใต้เป็นหลัก จึงไม่น่าจะเข้าข่ายการทบทวนหรือยุติ[su_spacer size=”20″]
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง