Sunday, June 8, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

มาเลเซียระงับการนำเข้าโคกระบือมีชีวิตจากไทย เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน

16/06/2021
in ทันโลก, เอเชีย
0
1
SHARES
188
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 กรมปศุสัตว์มาเลเซียได้ประกาศระงับการนำเข้าโคกระบือมีชีวิตจากประเทศไทย เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease) ใน 41 จังหวัดของประเทศไทย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในทันที โดยการระงับการนำเข้าครั้งนี้เป็นการระงับเฉพาะการนำเข้าโคกระบือมีชีวิตเท่านั้น ไม่รวมการนำเข้าเนื้อโคและเนื้อกระบือชำแหละ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันมิให้มีการระบาดของโรคลัมปี สกิน ในมาเลเซีย โดยกรมปศุสัตว์มาเลเซียขอให้ผู้ประกอบการยกเลิกการนำเข้าจากประเทศไทย และแนะนำให้ปศุสัตว์ท้องถิ่นในแต่ละรัฐรีบแจ้งกรมปศุสัตว์หากมีโคกระบือเริ่มแสดงอาการของโรคลัมปี สกิน และเพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าโคกระบือมีชีวิตจากประเทศไทย โดยเบื้องต้นกรมปศุสัตว์มาเลเซีย ขอความร่วมมือหน่วยงานด้านความมั่นคงชายแดน (AKSEM) ศุลกากรและสำนักงานกักกันพืชและสัตว์ (MAQIS) เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการลักลอบนำเข้าบริเวณชายแดนไทย – มาเลเซีย

.

โรคลัมปี สกินเป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่พบมากในโคกระบือแต่ไม่ใช่โรคที่ติดสู่คนได้ สัตว์ที่ติดเชื้อจะมีไข้สูง ต่อมน้ำเหลืองโต และมีตุ่มขนาดใหญ่ ประมาณ 2-5 เซนติเมตร ขึ้นที่ผิวหนังทั่วร่างกาย พบมากที่คอ หัว เต้านม ถุงอัณฑะและหว่างขา นอกจากนี้สัตว์ที่ติดเชื้อจะมีอาการซึม เบื่ออาหาร อาจมีภาวะเป็นหมันชั่วคราวหรือถาวร แท้งลูกและมีปริมาณน้ำนมลดลง อัตราการป่วยอยู่ที่ 5 – 45 % อัตราการตายน้อยกว่า 10% แต่อาจมีอัตราการตายสูงในพื้นที่ที่ไม่เคยมีการระบาดมาก่อน ผลกระทบส่วนใหญ่จะส่งผลต่อผลผลิตที่ลดลง

.

โดยตามระเบียบของมาเลเซีย โคและกระบือมีชีวิตนำเข้าจะต้องถูกกัก (Quarantine) ที่ด่านชายแดนก่อนจึงจะนำเข้ามาเลเซียได้ ซึ่งโดยปกติมาเลเซียนำเข้าเฉพาะโคกระบือมีชีวิตจากไทยเพื่อนำไปเชือดและตัดแต่งเอง ตามสถิติจาก Global Trade Atlas มูลค่าการส่งออกโคกระบือมีชีวิต ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 (มกราคม – เมษายน 2564) มีมูลค่าสูงถึง 6.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 335.67 โดยคาดว่าเป็นผลมาจากก่อนหน้านี้ไม่มีรายงานการตรวจพบโรคระบาดในโคกระบือจากประเทศไทย ซึ่งแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม และเมียนมา ที่มีการระบาดของโรคลัมปี สกินมาตั้งแต่ปลายปี 2563 จึงส่งผลให้มีความต้องการโคกระบือจากประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น

.

เบื้องต้นยังไม่มีความชัดเจนว่า กรมปศุสัตว์มาเลเซียจะระงับการนำเข้าจากไทยเป็นเวลานานเท่าใด ทั้งนี้จากสถิติย้อนหลัง 5 ปี ในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปีจะเป็นช่วงเวลาที่มาเลเซียนำเข้าโคกระบือมีชีวิตจาก ประเทศไทยมากที่สุด เนื่องจากตรงกับช่วงเทศกาลอีดิล อัฎฮา (Eid al-Adha) ซึ่งเป็นเทศกาลที่เกี่ยวกับการฉลองหลังฮารีรายาหรือปีใหม่ 90 วัน โดยชาวมุสลิมมีความเชื่อว่าการเชือดสัตว์เพื่อบริจาคเป็นทานให้แก่พี่น้องชาวมุสลิมเป็นการสร้างบุญสำคัญในศาสนาอิสลาม ซึ่งหากฝ่ายไทยยังไม่สามารถจัดการกับปัญหาการระบาดของโรคฯ ได้ มาตรการนี้อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกโคกระบือมีชีวิตจากไทยไปมาเลเซียเป็นอย่างมาก

.

ก่อนสถานการณ์โควิด-19 กรมปศุสัตว์ของไทยและกรมปศุสัตว์มาเลเซีย มีการพบปะหารือกันอย่างสม่ำเสมอภายใต้กรอบการประชุมคณะอนุกรรมการการพัฒนาด้านปศุสัตว์ไทย – มาเลเซีย (Thailand – Malaysia Sub – Committee Meeting on Livestock Development) ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีในการหารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าปศุสัตว์ระหว่างกัน โดยล่าสุดเมื่อ 16 มกราคม 2563 ฝ่ายไทยได้เป็นเจ้าภาพจัด การประชุมฯ ครั้งที่ 7 ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือความร่วมมือทางด้านเทคนิค การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านสถานการณ์โรคระบาดในสัตว์ มาตรการแนวทางการควบคุมป้องกันโรคระบาดในสัตว์ การกักกันสัตว์ การจัดการด้านการควบคุมตรวจสอบการ การเคลื่อนย้ายสัตว์ และขั้นตอนการนำเข้าและส่งออกระหว่างประเทศ ทั้งนี้เบื้องต้น

.

ดังนั้นผู้ประกอบการไทยที่ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกโคกระบือมีชีวิตไปยังต่างประเทศ หรือผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสัตว์ต่าง ๆ ควรติดตามพัฒนาการกฎระเบียบ และการนำเข้าของประเทศมาเลเซียอย่างใกล้ชิด เนื่องจากตลาดในมาเลเซียเป็นตลาดเพื่อนบ้านที่มีความสำคัญและมีความสะดวกในการส่งสินค้าออกไปขายเป็นอย่างมาก

.

สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์

Previous Post

นครฉงชิ่งจัดกิจกรรม 6.18 E-commerce Festival 2021

Next Post

แนวโน้มการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารทดแทนเนื้อสัตว์ของสวิตเซอร์แลนด์

Tanakorn

Tanakorn

Glob Thailand Administrator

Next Post

แนวโน้มการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารทดแทนเนื้อสัตว์ของสวิตเซอร์แลนด์

Post Views: 611

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

07/06/2025
จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

06/06/2025
การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

05/06/2025
นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

05/06/2025
นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

05/06/2025
ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

06/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X