Saturday, June 7, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

Update! สถานการณ์เศรษฐกิจของลิทัวเนียปี 2567 และแนวโน้มปี 2568

19/02/2025
in ทันโลก, เศรษฐกิจ I การเงิน
0
Update! สถานการณ์เศรษฐกิจของลิทัวเนียปี 2567 และแนวโน้มปี 2568
0
SHARES
61
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

ภาพรวมเศรษฐกิจของลิทัวเนีย 

ในปี 2567 เศรษฐกิจลิทัวเนียมีการฟื้นตัวอย่างโดดเด่น โดยธนาคารแห่งลิทัวเนียรายงานว่า GDP ของประเทศขยายตัวร้อยละ 2.1 ในสามไตรมาสแรกเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน การฟื้นตัวดังกล่าวมาจากความก้าวหน้าในภาคส่วนที่มีมูลค่าสูง เช่น อุตสาหกรรมด้านวิศวกรรมและเคมีภัณฑ์ ภาคส่วนการก่อสร้างที่แข็งแกร่งซึ่งได้รับการสนับสนุนเงินทุนจาก EU และการฟื้นตัวของการบริโภคในครัวเรือน และภาคบริการโดยเฉพาะ ICT วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม โดยในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2567 ภาคบริการดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 40 ของการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งหมด 

ในส่วนของอัตราการว่างงานลดลงอยู่ที่ร้อยละ 6.5 ในเดือนธันวาคม 2567 จากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ ร้อยละ 6.9 ในขณะที่ EU มีอัตราการว่างงานเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 5.9 ทั้งนี้ ลิทัวเนียมีจำนวนผู้คนว่างงานประมาณ 106,000 คนในเดือนธันวาคม 2567 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 109,000 คน 

ทั้งนี้ ลิทัวเนียยังคงเผชิญกับปัญหาอัตราการเกิดใหม่ของประชากร โดยในปี 2567 มีเด็กเกิดใหม่ จำนวน 18,700 คน ลดลงร้อยละ 9.5 จากปีก่อนหน้า และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 37,400 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 จากปีก่อนหน้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจให้ชะลอตัวในอนาคต เนื่องจากจำนวนแรงงานในประเทศจะลดลง รวมทั้งมีภาระทางเศรษฐกิจโดยวัยทำงานจะต้องดูแลผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น และศักยภาพในการขยายตัวของตลาดแรงงานและการบริโภคภายในประเทศจะลดลง ซึ่งนักวิจัยด้านประชากรศาสตร์ได้กล่าวถึงความจำเป็นในการเพิ่มจำนวนเด็กเกิดใหม่เป็น 2 เท่า เพื่อรักษาสมดุลการเปลี่ยนแปลงประชากรในระยะยาว 

การดำเนินการและนโยบายด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของภาครัฐและเอกชน

(1) เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ท่าอากาศยานวิลนีอุสได้ปรับปรุงพื้นที่ central square ขนาด 30,000 ตารางเมตร ด้วยงบประมาณกว่า 9.5 ล้านยูโร (ประมาณ 332.6 ล้านบาท) เพื่อรองรับผู้โดยสารที่มากขึ้น และทำให้มีพื้นที่จอดรถเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ท่าอากาศยานวิลนีอุสได้เปิดอาคารผู้โดยสารขาออกแห่งใหม่ขนาด 14,400 ตารางเมตร ซึ่งใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 1.5 ปี และงบการก่อสร้างจำนวนกว่า 50 ล้านยูโร (1.75 พันล้านบาท) โดยอาคารดังกล่าวมีการติดตั้งอุปกรณ์ที่ล้ำสมัย AI และระบบที่จะช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเก็บของเหลวไว้ในกระเป๋าได้ระหว่างการตรวจสอบด้านความปลอดภัย แม้ว่ากฎระเบียบของ EU ในปัจจุบันจะยังไม่อนุญาตให้ดำเนินการดังกล่าวก็ตาม ทั้งนี้ คาดว่าจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 2 เท่าจาก 1,200 คนเป็น 2,400 คนต่อชั่วโมง  

(2) Klaipėda Container Terminal (KKT) กลายเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าชั้นนำในกลุ่มประเทศบอลติก โดยได้ขนส่งสินค้าจำนวนเกือบ 7 ล้านตันในปี 2567 ซึ่งนับว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ 30 ปีของ บริษัทฯ ซึ่งนาย Vaidotas Šileika, CEO ของบริษัทฯ กล่าวว่า การเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคถือเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งของท่าเรือ Klaipėda ในตลาดต่างประเทศ และมีส่วนสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาค โดยปริมาณสินค้าที่เพิ่มขึ้นจะสร้างการจ้างงานใหม่และกระตุ้นคำสั่งซื้อสำหรับผู้จัดหาท้องถิ่นด้วย

(3) ในเดือนพฤศจิกายน 2567 สมาชิกรัฐสภาลิทัวเนีย จำนวนกว่า 79 คน ได้ลงคะแนนเห็นชอบให้ผ่าน กฎหมายปิดกั้นการเข้าถึงของจีนในระบบฟาร์มพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีขนาดใหญ่กว่า 100 กิโลวัตต์ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 โดยรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้เน้นย้ำว่า กฎหมายดังกล่าวนั้นมีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงและภัยคุกคามต่อการทำงานของระบบไฟฟ้า ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจาก remote use of equipment ที่ผลิตโดยประเทศที่เป็นศัตรู และจีนนับเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ

 

แนวโน้มทางเศรษฐกิจปี 2568 

(1) ธนาคารกลางของลิทัวเนียได้คาดการณ์ว่า GDP จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 ในปี 2568 – 2569 และร้อยละ 3 ในปี 2570 และการส่งออกของประเทศจะเติบโตขึ้นร้อยละ 2.5 ในปี 2568 ร้อยละ 3.6 ในปี 2569 และร้อยละ 3 ในปี 2570 อันเนื่องมาจากความคาดหวังในอุปสงค์ต่างประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น และการสนับสนุนการลงทุนจาก EU ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งชาวลิทัวเนียจะได้รับประโยชน์จากการเติบโตดังกล่าว จึงคาดว่าการบริโภคภาคเอกชนที่แท้จริงจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 ต่อปีในช่วงปี 2568 – 2570  

(2) อัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยในปี 2567 อยู่ที่ร้อยละ 1 แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปี 2568 เป็นร้อยละ 2.5 และร้อยละ 2.6 ในปี 2569 นอกจากนี้ ยังได้คาดการณ์ว่า ตลาดแรงงานจะยังคงแข็งแกร่ง โดยค่าจ้างโดยเฉลี่ยจะเติบโตขึ้นร้อยละ 8.7 ในปี 2568 ร้อยละ 8.1 ในปี 2569 และร้อยละ 7.5 ในปี 2570 และอัตราการว่างงานจะเริ่มลดลงจากในปี 2567 (ร้อยละ 7.4) เป็นร้อยละ 7.1 ในปี 2568 และจะปรับตัวลดลงอีก โดยคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 6.9 ในปี 2569 และร้อยละ 6.7 ในปี 2570

(3) สินค้าอุปโภคบริโภคอาจปรับราคาสูงขึ้น โดยเมื่อเดือนมกราคม 2568 เว็บไซต์ Pricer.lt ซึ่งเป็นเว็บไซต์เทียบราคาสินค้าในประเทศได้ระบุว่า พบสินค้าอย่างน้อย 15 รายการที่ปรับราคาขึ้นร้อยละ 10 ได้แก่ ช็อคโกแลตดำ แอ็ปเปิ้ล โยเกิร์ต ข้าว กาแฟคั่วบด เนย ชาดำ ปลาแช่แข็ง กล้วย ปลา Herring นมเปรี้ยว วอดก้า และเนยครีมหวาน

นอกจากนี้ โดยรวมแล้วความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของลิทัวเนียกับประเทศในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกนั้น มีความเชื่อมโยงกับการแลกเปลี่ยนด้านนวัตกรรม การบริการทางการเงิน และเทคโนโลยีทางการเงิน และเป็นที่สังเกตได้ว่า ลิทัวเนียเลือกที่จะดำเนินความสัมพันธ์กับประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตเร็วและแรงงานที่มีทักษะที่ดีในด้านเทคโนโลยีและการหาพันธมิตรใหม่ในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก นับเป็นทางเลือกที่ลิทัวเนียเห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการพึ่งพาประเทศเดียวและขยายโอกาสในการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยภูมิภาคดังกล่าวนับเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงทั้งในด้านการลงทุนและการพัฒนาเทคโนโลยี ลิทัวเนียมองเห็นโอกาสในการดำเนินความร่วมมือด้านเทคโนโลยีดิจิทัล พลังงานหมุนเวียน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีส่วนช่วย เสริมสร้างนวัตกรรมและเศรษฐกิจของลิทัวเนีย

ข้อมูล: สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน

เรียบเรียงโดย: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์

Tags: #globthailand#globทันโลก#ข่าวต่างประเทศ#ข่าววันนี้202525672568slideshow
Previous Post

เวียดนามก้าวขึ้นสู่ผู้ส่งออกทุเรียนรายใหญ่ของโลก

Next Post

เจาะโอกาสไทยในเมืองเป่ยไห่กับบทบาทใหม่ “เมืองอุตสาหกรรมทางทะเล” ของจีน

Globthailand

Globthailand

Next Post
เจาะโอกาสไทยในเมืองเป่ยไห่กับบทบาทใหม่ “เมืองอุตสาหกรรมทางทะเล” ของจีน

เจาะโอกาสไทยในเมืองเป่ยไห่กับบทบาทใหม่ “เมืองอุตสาหกรรมทางทะเล” ของจีน

Post Views: 402

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

07/06/2025
จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

06/06/2025
การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

05/06/2025
นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

05/06/2025
นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

05/06/2025
ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

06/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X