เมื่อปลายเดือนกันยายน 2561 นายลาตี สีสุพันนะวง รองประธานบริษัท ร่วมพัฒนาสีทันดอน จํากัด รายงานต่อ นายสอนไซ สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวกล่าวถึงความคืบหน้าของการพัฒนาเขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอน นับตั้งแต่การลงนามสัญญากับรัฐบาลลาวเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งประกอบด้วย [su_spacer size=”20″]
1.การรับ – มอบ รีสอร์ทคอนพะเพ็ง พร้อมทั้งการปรับปรุงห้องพักจํานวน 25ห้อง
2.การสํารวจที่ตั้งสํานักงานการออกแบบ เรือนรับรอง และที่พักของพนักงานจํานวน 200ห้อง
3.การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในเขตพัฒนาฯ จํานวน 6บริษัท
4.การสํารวจและออกแบบเส้นทางเลี่ยงดอนโขง ระยะทาง 43กิโลเมตร และเส้นทางเลียบแม่น้ำโขงจากบริเวณน้ำตกคอนพะเพ็งถึงบ้านขี้นาก ทั้งนี้ จะเตรียมการวางศิลาฤกษ์ในการก่อสร้างเส้นทางดังกล่าวในต้นเดือนตุลาคม 2561 นี้
5.การแต่งตั้งคณะกรรมการชดเชยค่าเสียหายและการจัดสรรและโยกย้ายผู้ได้รับผลกระทบ
6.การสํารวจแหล่งท่องเที่ยวสําคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่น้ำตกคอนพะเพ็งและน้ำตกสมพะมิด [su_spacer size=”20″]
โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจใหม่สีทันดอน เมืองโขง แขวงจําปาสัก เป็นการร่วมทุนระหว่างนักลงทุนจีนและนักลงทุนลาว มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ บนเนื้อที่ทั้งหมด 9,846 เฮกตาร์ โดยจะเน้นการลงทุนใน 4 กลุ่มธุรกิจ คือ (1) การผลิต อาทิ โรงงานผลิตอะไหล่อิเล็กทรอนิกส์และไอที การแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และงานหัตถกรรม (2) การค้า อาทิ การนําเข้าและส่งออกสินค้า การค้าชายแดน ร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์การค้า ตลาดกลางคืน (3) การบริการ อาทิ โรงแรม การท่องเที่ยว สถาบันการเงินและธนาคาร ประกันภัย การขนส่ง การศึกษา สาธารณสุข สถานบันเทิง และสวนสนุก และ (4) การส่งเสริมการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์และการประมง [su_spacer size=”20″]
แผนการดําเนินการโครงการดังกล่าว จะแบ่งออกเป็น 6 ระยะ ภายใต้สัญญาสัมปทาน 50 ปี ตั้งแต่ปี 2561 ถึงปี 2593 โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้เมืองโขงกลายเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวและเป็นเมืองต้นแบบในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถเชื่อมโยงกับประเทศอื่นได้ พร้อมทั้งสามารถดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และในขณะเดียวกันก็จะผลักดันให้ประชาชนในพื้นที่มีรายรับเพิ่มมากขึ้นจากการผลิตสินค้า [su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้ เขตพัฒนาเศรษฐกิจใหม่สีทันดอน เป็นโครงการพัฒนาที่สําคัญของแขวงจําปาสัก และเป็นแหล่งสร้างรายรับที่ยั่งยืนและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของลาวให้เติบโต เข้มแข็งและมั่นคง ซึ่งมีบริษัทเอกชน 2 บริษัท เป็นผู้รับสัมปทาน บนเนื้อที่ 9,840 เฮกตาร์ โดยมีสัญญาสัมปทาน 50 ปี รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ [su_spacer size=”20″]
โครงการดังกล่าวจะช่วยสร้างงานให้ประชาชนลาวประมาณ 32,000 คน เฉลี่ยรายรับต่อคนต่อปีประมาณ 9,430 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาลาวถึง 15 ล้านครั้งต่อปี ซึ่งจะสร้างรายรับให้ภาคการท่องเที่ยว มูลค่ากว่า 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะสร้างมูลค่าให้ภาคการบริการและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวมูลค่ากว่า 637 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และสามารถจัดเก็บรายรับเข้ารัฐได้มูลค่ากว่า 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี [su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์