เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ธนาคารแห่ง สปป. ลาว (Bank of Lao PDR: BOL) ออกข้อตกลง
ว่าด้วยการคุ้มครองบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศใน สปป. ลาว โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
(1) มาตรา 10 การโอนเงิน: การโอนเงินระหว่างบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ สกุลเงินเดียวกัน และชื่อเดียวกันยังสามารถดำเนินการได้โดยมีค่าธรรมเนียมแต่ไม่จำกัดวงเงิน แต่การโอนระหว่างบัญชีต่างชื่อจะมีค่าธรรมเนียมร้อยละ 0.5 (ขั้นต่ำ 1 ดอลลาร์สหรัฐ สูงสุด 50 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อหนึ่งรายการธุรกรรม และต้องระบุจุดประสงค์ โดยแบ่งตามประเภทบัญชีเงินฝาก ได้แก่
(1.1) ประเภทบุคคล: วงเงินไม่เกิน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ เทียบเท่า ต่อวัน
(1.2) ประเภทวิสาหกิจ: วงเงินไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ เทียบเท่า ต่อวัน
(1.3) ประเภทองค์กรสาธารณประโยชน์: วงเงิน ไม่เกิน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ เทียบเท่า ทั้งนี้ หากมีวงเงินที่สูงกว่าที่กำหนดจะต้องยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้องด้วย
(2) มาตรา 17 ข้อห้ามทั่วไป: ห้ามทำธุรกรรมผิดเงื่อนไข ห้ามปลอมแปลงข้อมูล ห้ามใช้บัญชีเพื่อให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราโดยไม่ได้รับอนุญาต และห้ามใช้บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศเพื่อเป็นเครื่องมือปั่นอัตราแลกเปลี่ยน
(3) มาตรา 18 ข้อห้ามสำหรับธนาคาร: ห้ามเปิดบัญชีหรือให้บริการผิดเงื่อนไข และห้ามถอนเงินนอกจุดบริการ
(4) มาตรา 19 การลงโทษ: โทษปรับ 10 – 20 ล้านกีบ หรือร้อยละ 10 ของมูลค่าการละเมิด หากละเมิดซ้ำ ปรับเพิ่มขึ้น 2 เท่า ทั้งนี้ สำหรับธนาคารที่ละเมิดข้อบังคับจะต้องแก้ไขภายใน 5 วันทำการ มิฉะนั้นถูกปรับวันละ 20 ล้านกีบ และอาจถูกยุติการบริการ



จากข้อมูลข้างต้น สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ ได้ให้ความเห็นว่า การประกาศใช้ข้อตกลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ BOL และภาครัฐ สปป.ลาว เพื่อกำกับและควบคุมการใช้เงินตราต่างประเทศและบัญชีเงินตราต่างประเทศสำหรับการดำเนินธุรกรรมทางเศรษฐกิจ เพื่อแก้ไขปัญหาความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ส่งเสริมมาตรการป้องกันการฟอกเงิน และรักษาเสถียรภาพทางการเงิน
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามผลกระทบต่อเศรษฐกิจและภาคธุรกิจอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องความคล่องตัวของการทำธุรกรรม และภาระที่เกิดขึ้นกับประชาชนและนักลงทุน ซึ่งเป็นผลจากการจำกัดวงเงิน การมีค่าธรรมเนียมที่สูง รวมทั้งเอกสารที่ต้องใช้สำหรับประกอบการทำธุรกรรมด้วย
ข้อมูล: สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์
เรียบเรียงโดย: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์