ช่วงเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา ศูนย์ข้อมูลข่าวสารทางด้านการค้าของ สปป. ลาว กรมการนําเข้าและส่งออก กระทรวงอุตสาหกรรม และการค้า สปป. ลาว รายงานว่า สปป. ลาว มีมูลค่าการนําเข้าและส่งออก ประมาณ 1,156 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกอบด้วยมูลค่าการส่งออกประมาณ 598 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าการนําเข้า ประมาณ 557 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย สปป. ลาว เกินดุลการค้าประมาณ 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ มูลค่าการนําเข้าและส่งออกดังกล่าวไม่รวมมูลค่าการส่งออกไฟฟ้า โดยสินค้าส่งออกสําคัญของ สปป. ลาว ประกอบด้วย ทองคําแท่ง มันสําปะหลัง แร่ทองแดง กระดาษและเครื่องใช้ที่ทําจากกระดาษ ยางพารา เยื่อไม้และเศษกระดาษ กล้วย แร่ทองแดง เครื่องนุ่งห่ม แก้วและเครื่องใช้ที่ทําจากแก้ว และแป้งมันสําปะหลัง ซึ่งส่งออกไปยังจีน มูลค่าประมาณ 217 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทย 141 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เวียดนาม 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ออสเตรเลีย 42 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ และญี่ปุ่น 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
สินค้านําเข้าที่สําคัญของ สปป. ลาว ประกอบด้วยน้ำมันดีเซล ยานพาหนะ (ไม่รวมรถไถและรถจักรยานยนต์) เครื่องจักรกล (ไม่รวมเครื่องยนต์) อะไหล่รถ (รวมทั้งยางรถ กระจก โซ่รถ) ของใช้ที่ทําจากพลาสติก น้ำมันเบนซินและเบนซินพิเศษ ผลิตภัณฑ์ยา สายไฟฟ้าและเคเบิ้ล รวมถึงผลิตภัณฑ์ทางเคมีโดยนําเข้าจากไทยมูลค่าประมาณ 254 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จีน 108 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เวียดนาม 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สวิสเซอร์แลนด์ 59 และ สหรัฐอเมริกา 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
จากข้อมูลข้างต้น พบว่า มูลค่าการนําเข้าและส่งออกเดือนมกราคม 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.56 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยการส่งออก เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.06 และการนําเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.21 ด้านประเทศที่ สปป. ลาวส่งออกหลัก ยังคงอันดับเดิม คือ จีน เวียดนาม ไทยตามลําดับ และประเทศนําเข้าหลักยังคงอันดับเดิม คือ ไทย จีน และเวียดนาม ตามลําดับ
.
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ดร. สอนไซ สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมมือลาว-จีน ได้เป็นประธานการประชุมสรุปผลความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าและเทคนิคระหว่างลาว-จีน ประจําปี 2564 โดยมีรองรัฐมนตรี ผู้แทนจากองค์การรัฐเทียบเท่ากระทรวง รองเจ้าครองนครหลวงเวียงจันทน์ รองเจ้าแขวง และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขั้นศูนย์กลางและท้องถิ่นเข้าร่วม โดยในปี 2564 สปป. ลาวมีโครงการความช่วยเหลือแบบให้เปล่าจากจีนที่ดําเนินการแล้วเสร็จ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการแสงสว่างในตัวเมืองนครหลวงเวียงจันทน์ ชุดที่ 1 โครงการสร้างบ้านนําร่องขจัดความยากจนลาว-จีน (บ้านซื้อ เมืองสังทอง นครหลวงเวียงจันทน์ และบ้านเชียงล้อม นครหลวงพระบาง แขวงหลวงพระบาง) และโครงการก่อสร้างโรงพยาบาล มะโหสด ระยะที่ 1 นอกจากนี้ มีโครงการช่วยเหลือแบบให้เปล่าอีก 18 โครงการที่อยู่ระหว่างการดําเนินการ
.
ด้านความร่วมมือทางการค้า จีนยังคงเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของ สปป.ลาว โดยในปี 2564 การค้าลาว-จีน มีมูลค่า 4,350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 ประกอบด้วยมูลค่าการนําเข้า 1,670 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9 และมูลค่าการส่งออก 2,680 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.2 ซึ่งจีนกลายเป็นประเทศที่ สปป.ลาวส่งออกมากที่สุด ทั้งนี้ การส่งเสริมสินค้าเกษตรของ สปป.ลาว ไปจีนมีผลสําเร็จมากพอสมควร มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีลงนามข้อกําหนดเงื่อนไขด้านสุขอนามัยพืชและสัตว์ (SPS) ได้ทั้งหมด 7 รายการ ได้แก่ ถั่วฝักยาว ถั่วเหลืองฝักสด (ถั่วแระญี่ปุ่น) ถั่วแขก เสาวรสสด ส้มเปลือกหนา ส้มโอ และเลมอน ทําให้ปัจจุบัน สปป.ลาว ลงนาม SPS กับจีนแล้ว รวม 14 รายการ เป็นพืช 13 รายการ และสัตว์ใหญ่ 1 รายการ
.
การใช้ประโยชน์จากทางรถไฟลาว-จีน นับตั้งแต่การเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนธันวาคม 2564 มีการขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางดังกล่าว 90 เที่ยว ปริมาณการขนส่งกว่า 80,000 ตัน เป็นสินค้านําเข้าและส่งออกกว่า 40,000 ตัน สินค้าส่งออกส่วนใหญ่ เช่น แร่เหล็ก แร่สังกะสี ยางพารา ถ่าน ข้าว แป้งมันสําปะหลัง และอื่น ๆ โดยมีผู้ประกอบการจากไทย เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมาใช้บริการรถไฟเพื่อนําเข้าและส่งออกสินค้า ไปและกลับจากจีน และประเทศอื่น ๆ นับว่าเส้นทางนี้ช่วยผลักดันมูลค่าการค้าลาว-จีน ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ปัจจุบัน ไทยขนส่งข้าว จํานวน 1,000 ตันโดยใช้ทางรถไฟลาว-จีนครั้งแรกไปยังเมืองฉงชิงของจีน นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งออกผลไม้ กล้วยไม้ ยาง มันสําปะหลัง น้ำมันปาล์ม ประมงและสินค้าปศุสัตว์โดยเส้นทางรถไฟลาว-จีนอีกด้วย
.
อย่างไรก็ตาม จีนยังเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในลาว มีโครงการลงทุน 821 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉพาะในปี 2564 จีนเข้ามาลงทุนใน สปป. ลาว 20 โครงการ มูลค่าการลงทุนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งช่วยเสริมสร้างการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และสร้างโอกาสในการทํางานให้กับคนในท้องถิ่น ทั้งนี้ รัฐบาล สปป. ลาว มอบหมายให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องส่งเสริมให้นักธุรกิจเข้ามาลงทุน และสนับสนุนการเพาะปลูกพืชเพื่อเพิ่มกระตุ้นการส่งออกผ่านเส้นทางรถไฟ
.
ส่วนความเคลื่อนไหวด้านพลังงาน พบว่า สปป. ลาว อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อ-ขายไฟฟ้าในอาเซียนและตั้งเป้าหมายเชื่อมโยงถึงสิงคโปร์ ปัจจุบัน สปป. ลาวมีแหล่งผลิตไฟฟ้าทั้งหมด 89 แห่ง กําลังการผลิต ติดตั้ง 10,221 เมกะวัตต์ สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ 74,311 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ประกอบด้วย โครงการเขื่อน ไฟฟ้าพลังน้ำ 78 แห่ง โครงการไฟฟ้าถ่านหิน 1 แห่ง โครงการพลังงานไฟฟ้าชีวะมวล 4 แห่ง และโครงการไฟฟ้า แสงอาทิตย์ 6 แห่ง โดยสามารถส่งออกไปต่างประเทศและแลกเปลี่ยนพลังงานผ่านระบบของไฟฟ้าลาว และจากเขื่อนไฟฟ้าโดยตรง โดยส่งออกไปไทยจํานวน 7 เขื่อน และ 1 โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน เวียดนาม 2 เขื่อน และ กัมพูชา 1 เขื่อน
.
อนึ่ง สปป. ลาว เป็นประเทศแรกที่เริ่มส่งจําหน่ายไฟฟ้าแบบเชื่อมโยงในกลุ่มประเทศอาเซียน ปัจจุบันส่งออกแล้ว 100 เมกะวัตต์ ผ่านลาว-ไทย-มาเลเซีย และตั้งเป้าเชื่อมโยงถึงสิงคโปร์ นอกจากนั้น การจ่ายไฟฟ้าภายในประเทศยังครอบคลุมในทุกภาคส่วน ได้แก่ ที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม กสิกรรม การค้า การบริการและอื่น ๆ ซึ่งเป็นส่วนสําคัญในการผลิตสินค้าและสร้างงานทําให้แก่สังคม โดย สปป. ลาว สามารถให้บริการไฟฟ้าได้ร้อยละ 100 ในทุกเทศบาล แขวง นครหลวง เทศบาลเมือง และนคร คลอบคลุมพื้นที่ร้อยละ 94 ของจํานวนบ้าน และร้อยละ 95 ของจำนวนครอบครัวทั่วประเทศ มีไฟฟ้าใช้อย่างถาวรแล้ว
.
สปป. ลาว นับเป็นอีกหนึ่งประเทศในอาเซียนที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่งในปี 2565 สังเกตจากแนวทางการพัฒนาในด้านการผลิต ด้านขนส่ง และด้านพลังงาน ที่มีความก้าวหน้าและเอื้อต่อนักธุรกิจจากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุน ด้านประเทศไทยเองซึ่งมีศักยภาพไม่ด้อยไปกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ควรเร่งปรับปรุงปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็น อย่างด้านสาธารณูปโภคให้ได้มาตรฐาน และทันสมัย อันจะเป็นประโยชน์ต่อการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในประเทศอย่างทั่วถึง หรืออาจใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานของ สปป.ลาว ในการต่อยอดการส่งออกสินค้าไปยังตลาดที่กว้างขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อรายได้ของประเทศด้วย
.
สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์
อ้างอิง : https://www.laotradeportal.gov.la/index.php?r=site/display&id=2467