สปป. ลาวเป็นประเทศที่พึ่งพาการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งผู้นำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงต้องชำระเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐเพียงเท่านั้น แต่จำหน่ายภายในประเทศเป็นเงินสกุลกีบ ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการประสบปัญหาขาดทุน เนื่องจากปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนและเงินเฟ้อมีความผันผวน
โดยเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 สภาแห่งชาติเห็นชอบรับรองมาตรการรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันมีความผันผวนสูง โดยปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตที่เรียกเก็บจากน้ำมันดีเซลจากร้อยละ 21 เป็นร้อยละ 11 น้ำมันเบนซินจากร้อยละ 31 เป็นร้อยละ 16 และมีการออกมาตรการอื่นๆ เพื่อแก้ไขปัญหา ได้แก่ (1) มาตรการระยะสั้น ภาครัฐจะจัดหาเงินตราต่างประเทศให้บริษัทนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิง และชำระค่าขนส่งให้ต่างประเทศอย่างน้อยร้อยละ 50 ของความต้องการ เฉลี่ยเดือนละ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2) มาตรการระยะกลาง รัฐบาลจะเจรจาและหาแหล่งน้ำมันเชื้อเพลิงแหล่งใหม่ โดยที่ผ่านมา สปป. ลาวนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงไทยและเวียดนามเป็นหลัก และ (3) มาตรการระยะยาว รัฐบาลจะสนองเงินตราต่างประเทศให้ทุกบริษัทร้อยละ 100 เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 สภาการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว จัดการประชุมสมาคมน้ำมันเชื้อเพลิงและแก๊ส ประจำปี 2565 โดยนายคำแพง ไซสมแพง รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าสปป. ลาว นายสังคม โคดโยทา ประธานสมาคมน้ำมันเชื้อเพลิงและแก๊ส และนายดาววอน พะจันทะวง รองประธานสภาการค้าและอุตสาหกรรมแห่งชาติลาว ร่วมเป็นประธานการประชุม เนื้อหาสำคัญของการประชุมเน้นย้ำไปที่การเจรจาหาแหล่งเงินตราต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนและเงินเฟ้อ โดยมอบหมายให้ธนาคารพาณิชย์จัดหาเงินตราต่างประเทศในสัดส่วนที่เหมาะสมให้กับผู้นำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง
ซึ่งขณะนี้ธนาคารกลาง สปป.ลาว ได้ขอให้ธนาคารพาณิชย์ต่างชาติแจ้งจำนวนเงินของสกุลเงินตราต่างประเทศ ที่ต้องการจะสนับสนุนให้แก่ธนาคารกลาง สปป. ลาว เพื่อเพิ่มปริมาณสำรองเงินตราต่างประเทศที่รัฐบาลลาวจะสามารถนำมาใช้ในการนำเข้าน้ำมันและกิจกรรมอื่นต่อไป นอกจากนี้ จะหาแหล่งเงินตราต่างประเทศจากการจำหน่ายทรัพยากรธรรมชาติและเหมืองแร่เพิ่มเติมต่อไป
โดยประเทศไทยและผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมพลังงานและเชื้อเพลิง อาจพิจารณาใช้ประโยชน์จากปัจจัยนี้ในการเป็นผู้ส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงทางเลือกให้กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะสปป. ลาว ในช่วงที่เกิดภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นท่ามกลางสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน