เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2561 คณะกรรมการงบประมาณรัฐสภาคูเวตได้แถลงว่า คูเวตจะไม่เริ่มใช้ VAT ก่อนปี 2564 โดยกระทรวงการคลังคูเวตจะเร่งผลักดันให้มีการเริ่มใช้ภาษีสรรพสามิตสําหรับสินค้าบางรายการก่อน อาทิ ยาสูบ เครื่องดื่มชูกําลัง และน้ำอัดลม ซึ่งคาดว่าจะผ่านความเห็นชอบจากสภาในสมัยประชุมหน้าช่วงปลายปี 2561 และ จะทําให้รัฐบาลมีรายได้ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้ IMF ได้เสนอแนะให้ประเทศกลุ่ม GCC ใช้ VAT เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อขยายฐานรายได้เข้ารัฐ โดยประเทศกลุ่ม GCC ได้ตกลงกันที่จะเริ่มใช้ VAT ที่ 5% ตั้งแต่ต้นปี 2561 แต่ปัจจุบันมีเพียงซาอุดีอารเบีย และ UAE ที่เริ่มใช้ VAT ตามกําหนดดังกล่าว อีก 4 ประเทศที่เหลือยังไม่มีกําหนดการเริ่มใช้ VAT อย่างเป็นทางการ สาเหตุหลักมาจากเสียงคัดค้านภายในประเทศ ผลกระทบทางลบที่จะมีต่อการใช้จ่ายเพื่อการบริโภค และการขาดความพร้อมทางเทคนิคในการปฏิบัติและการคํานวณภาษี อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขความจําเป็นภายใน 4 ประเทศดังกล่าวแตกต่างกัน โดยคูเวตเป็นหนึ่งในประเทศที่ยังมีสถานะทางการคลังแข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาค ประกอบกับราคาน้ำมันได้ขยับตัวสูงขึ้น รัฐบาลคูเวตจึงไม่จําเป็นที่จะต้องหาฐานรายได้ใหม่เหมือนประเทศอื่น ๆ[su_spacer size=”20″]
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลัง กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม สำนักงานศุลกากร และหอการค้าและอุตสาหกรรมคูเวต ได้ร่วมมือกันศึกษาเพื่อประเมินรายได้ของรัฐจากการใช้ VAT ที่ 5% บนพื้นฐานมูลค่าสินค้านําเข้าทุกรายการและทุกขนาดในหนึ่งปีจากค่าเฉลี่ยในห้วง 3 ปีที่ผ่านมา และพบว่ารัฐบาลคูเวตจะมีรายได้ปีละ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวต