มะม่วงและทุเรียนไทยเป็นผลไม้ที่ศักยภาพในประเทศคูเวต เนื่องจากเป็นที่นิยมทั้งจากชุมชนไทยและชุมชนอาเซียนในประเทศ รวมทั้งชาวคูเวตมีความคุ้นเคยกับผลไม้ดังกล่าว เนื่องจากได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวไทยอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้ง กระแสความนิยมข้าวเหนียวมะม่วงในปัจจุบัน ประกอบกับการนำเสนอขนมไทยในลักษณะของอาหารว่าง นอกเหนือจากการเป็นเพียงแค่ขนมประจำชาติแบบดั้งเดิมของไทย จึงส่งผลให้อาหารเหล่านี้กลายเป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัยต่อผลไม้ไทยและขนมไทยในสายตาคนคูเวตที่ชื่นชอบรสชาติที่ “หวาน หอม” เป็นทุนเดิม ดังนั้น จึงเป็นการดีที่ทางรัฐบาลไทยควรประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้มีการนำเข้าผลไม้ไทยในคูเวต เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายและทำให้เข้าถึงผู้บริโภคในคูเวตมากยิ่งขึ้น
โดยทางสถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวต ได้มีการจัดกิจกรรมระหว่างวันที่ 4 – 5 พฤษภาคม 2565 เพื่อประชาสัมพันธ์ soft power ของไทยด้านผลไม้และขนมไทย ดังนี้
1. การสาธิตการทำข้าวเหนียวมะม่วง
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวต ได้มีการสาธิตการทำข้าวเหนียวมะม่วง สำหรับเผยแพร่ในรายการของสถานีโทรทัศน์ KTV และสื่อด้านการเกษตร AL-Hassad เพื่อประชาสัมพันธ์ผลไม้และขนมไทยให้แก่ชาวคูเวตเป็นวงกว้าง รวมทั้งสร้างการรับรู้ถึงการนำเอาผลไม้ไทยมาต่อยอดทำเป็นขนม ซึ่งเป็นขนมที่เป็นที่นิยมในคูเวตและมีขายในร้านอาหารไทยทั่วทั้งประเทศ
2. การจัดกระเช้าข้าวเหนียวมะม่วงมอบแก่บุคคลสำคัญของคูเวต
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวต ได้จัดกระเช้าข้าวเหนียวมะม่วงมอบแก่บุคคลสำคัญของคูเวต ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคูเวต และ Sheikha Bibi Duaij Al-Sabah ประธานพิพิธภัณฑ์ผ้าของคูเวต และนาย Mansour Ali Alkhuzaim ผู้จัดการทั่วไปบริษัท National Aviation Service (NAS) เพื่อส่งเสริมมิตรภาพกับบุคคลดังกล่าวซึ่งมีความสำคัญต่อความสัมพันธ์ไทย-คูเวต
3. การจัดเลี้ยงอาหารว่าง High Tea Reception with Thai Mango and Durian
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวต ได้จัดงานเลี้ยงแนะนำข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้และทุเรียนหมอนทองที่ร้านอาหารไทย เพื่อส่งเสริมการขายผลไม้และขนมไทย โดยมีบุคคลสำคัญร่วมงานรวม 21 คน อาทิ คณะทูตประเทศอาเซียนและภูฏาน สื่อมวลชน ผู้บริหารบริษัทเอกชน และผู้จัดการสายการบินคูเวตแอร์เวย์ประจำประเทศไทย เพื่อเพิ่มโอกาสการขนส่งผลไม้ไทยจากต้นทางไปยังปลายทางให้ครอบคลุม รวมทั้งประชาสัมพันธ์ข้าวเหนียวมะม่วงในฐานะ soft power ของไทยแก่ผู้เข้าร่วมงาน และอธิบายว่าปัจจุบันภาพลักษณ์ของข้าวเหนียวมะม่วงคืออาหารว่างของคนรุ่นใหม่ มากกว่าเป็นเพียงแค่ผลไม้ประจำชาติแบบดั้งเดิมเท่านั้น
นอกไปจากนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวต มีแผนงานในการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ soft power ไทยให้ครอบคลุมไปสู่มิติอื่น ๆ มากยิ่งขึ้น เช่น (1) การจัดกิจกรรมเพื่อแนะนำร้านอาหารไทยในคูเวต ผ่านสื่อทีวีและสื่อออนไลน์ (2) การจัดกิจกรรมการแสดงชกมวยไทยในคูเวตเพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – คูเวต ในปี 2566 (3) การสนับสนุน sport diplomacy ผ่านการจัดกิจกรรมการแข่งขันแบดมินตันระหว่างอาเซียนและคูเวต (4) การจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ผ้าไทย(5) การส่งเสริมมาตรฐานสปาไทยให้เป็นที่นิยมในคูเวต และ (6) การจัดกิจกรรมว่าวไทยเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในหมู่เยาวชนของคูเวต
การจัดโครงการของสถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวต นอกจากจะมีส่วนช่วยในการประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยผ่านสื่อมวลชนและหมู่คณะทูตต่างประเทศแล้ว ยังคาดว่าจะช่วยเสริมสร้าง soft power ของไทยในคูเวต และจะช่วยกระตุ้นการนำเข้าผลไม้ไทยมายังคูเวตมากยิ่งขึ้นในอนาคต
ข้อมูล: สถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวต เรียบเรียง: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์