Friday, May 30, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

เกาหลีใต้เน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้นโยบาย Green New Deal

29/01/2021
in ทันโลก, เอเชีย
0
11
SHARES
236
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

รัฐบาลเกาหลีใต้ให้ความสำคัญลำดับต้นกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ให้เป็นเศรษฐกิจสีเขียวอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อลดผลกระทบจากโควิด-19 และสร้างเครือข่ายความปลอดภัยทางสังคมให้ภาคแรงงานและ SMEs โดยประธานาธิบดี มุนฯ ได้กล่าวในงาน International Day of Clean Air for Blue Skies ครั้งที่ 1 เมื่อ กันยายน 2563 ว่า รัฐบาลมุ่งที่จะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยการออกนโยบายที่มีประสิทธิภาพ โดยนอกจากนโยบาย Carbon Neutrality 2025 แล้ว รัฐบาลจะผลักดันการเพิ่มจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศจาก 110,000 คันในปัจจุบันเป็น 1.13 ล้านคัน และยานยนต์ไฮโดรเจนจาก 8,000 คันในปัจจุบันเป็น 200,000 คัน ภายในปี 2568 นอกจากนี้ จะห้ามการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินใหม่และทยอยปิดโรงไฟฟ้าฯ เดิม รวมทั้งจะเพิ่มโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมในจำนวน 3 เท่าของปัจจุบันภายในปี 2568

.

เพื่อเป็นการดำเนินการตามนโยบายข้างต้น รัฐบาลเกาหลีใต้ ได้เพิ่มมูลค่าของเงินอุดหนุนในอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคตเป็น 4.5 ล้านล้านวอน และได้ขยายระยะเวลาการมอบเงินอุดหนุนสำหรับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าออกไปจนถึงปี 2568 จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในปี 2565 ในทางเดียวกันตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้น ไปยานยนต์ไฮโดรเจนที่ใช้ในเชิงพาณิชย์จะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลเมื่อทำการเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนและตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปรถบรรทุกที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนจะได้รับสิทธิประโยชน์จากรัฐบาลเช่นกัน

.

การทดลองพัฒนายานยนต์ไร้คนขับ (autonomous vehicle) ในเกาหลีใต้ขณะนี้อยู่ที่ขั้นเทคโนโลยีระดับที่ 3 ซึ่งเน้นให้ยานยนต์สามารถทำงานเองได้ในบางฟังก์ชั่น เช่น การเปลี่ยนเลนและจอดเข้าซองได้เองโดยไม่มีผู้ควบคุม โดยในระดับที่ 4 ยานยนต์จะสามารถทำงานเองได้เกือบสมบูรณ์แบบภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้ โดยไม่ต้องมีผู้ควบคุมพวงมาลัยแต่ยังต้องเข้าควบคุมยานพาหนะในสถานการณ์ที่ฉุกเฉิน และในระดับที่ 5 จะสามารถทำงานเองได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่ต้องมีที่นั่งสำหรับคนขับ ไม่ต้องมีพวงมาลัย มีเพียงที่นั่งสำหรับผู้โดยสาร ทั้งนี้ ประโยชน์สูงสุดของยานยนต์ไร้คนขับคือการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและการช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้พิการในการขับรถ

.

ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2564 รัฐบาลเกาหลีใต้ ประกาศว่าจะสนับสนุนงบประมาณจำนวน 1.1 ล้านล้านวอนสำหรับการพัฒนายานยนต์ไร้คนขับ โดยงบประมาณส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของถนน ระบบควบคุมจราจร และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับยานยนต์ไร้คนขับ ทั้งนี้ รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะผลิตยานยนต์ไร้คนขับที่มีเทคโนโลยีระดับที่ 4 ภายในปี 2570

.

ในอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคตของเกาหลีใต้ Hyundai Motor Group ถือว่าเป็นบริษัทชั้นนำด้านการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์ไร้คนขับ โดยในปี 2563 Hyundai ได้ประกาศยุทธศาสตร์ปี 2025 (Strategy 2025) ซึ่งประกอบด้วยการจัดสรรงบประมาณ 20 ล้านล้านวอนสำหรับการพัฒนายานยนต์แห่งอนาคต และในจำนวนนี้รวมงบประมาณ 9.7 ล้านล้านวอนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไร้คนขับโดยเฉพาะ โดย Hyundai มีแผนที่จะพัฒนายานยนต์ไร้คนขับที่มีเทคโนโลยีระดับที่ 3 ให้แล้วเสร็จภายในปี 2565 และจะร่วมกับบริษัทชั้นนำของต่างประเทศในการพัฒนายานยนต์ไร้คนขับที่มีเทคโนโลยีระดับที่ 4 กับ 5 ต่อไป นอกจากนี้ ในปีนี้ Hyundai มีแผนที่จะเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้ารุ่น IONIQ5 และจะเปิดตัวอีก 3 รุ่นภายในปี 2567 ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นตลาดยานยนต์ไฟฟ้าให้มียอดขาย 560,000 คันต่อปีภายในปี 2568

.

สำหรับการดำเนินนโยบายด้านรถไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้การนำของประธานาธิบดีไบเดน สหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญมากขึ้นกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมโดยรัฐบาลไบเดนมีแผนที่จะลงทุนในการพัฒนาฐานชาร์จแบตเตอรี่ของยานยนต์ไฟฟ้าและยกระดับยานยนต์ปัจจุบันของรัฐบาลเป็นยานยนต์ไฟฟ้า อีกทั้งประธานาธิบดีไบเดน ได้ให้คำมั่นว่าจะลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนสู่อากาศของสหรัฐฯ ให้เหลือศูนย์ภายในปี 2593 ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์เดียวกับนโยบาย Carbon Neutrality 2025 ของรัฐบาลเกาหลีใต้ โดยความเชื่อมโยงระหว่างสองนโยบายดังกล่าวเป็นหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นให้ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่นายไบเดนชนะการเลือกตั้ง โดยหุ้นของบริษัท LG Chem ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการผลิตแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.94 และหุ้นของบริษัท SK Innovation เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.95 ทั้งนี้ LG Chem มีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าที่รัฐมิชิแกนและได้เริ่มก่อสร้างโรงงานแห่งที่สองที่รัฐโอไฮโอช่วงต้นปี 2563 ร่วมกับบริษัท General Motors และ SK Innovation อยู่ระหว่างการสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าที่รัฐจอร์เจีย

.

การที่เกาหลีใต้กับสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจสีเขียวไปในทิศทางเดียวกันอาจเปิดช่องให้บริษัท Hyundai เล็งเห็นถึงศักยภาพในการขยายความร่วมมือกับสหรัฐฯ โดยการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและการตีตลาดสหรัฐฯ โดยล่าสุด Hyundai มีแผนที่จะขยายการส่งออกยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจำนวน 10 รุ่นสู่ตลาดสหรัฐฯ ภายในปี 2565 และเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม 2564 ได้ปรากฏข่าวว่า Hyundai อาจร่วมมือกับบริษัท Apple ของสหรัฐฯ ในการพัฒนายานยนต์ไร้คนขับ แต่จนถึงปัจจุบัน Hyundai ยังไม่ได้ยืนยันข่าวดังกล่าว โดยแจ้งเพียงว่า Hyundai ได้รับคำขอจากหลายบริษัทเพื่อจัดทำความร่วมมือด้านยานยนต์ไร้คนขับ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะตอบรับบริษัทใดอย่างเป็นทางการ โดยในส่วนของ Apple ก็ยังอยู่ระหว่างการหารือในระยะแรกเริ่มเท่านั้น

.

โดยไทยเองก็ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) และเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 BOI ได้เปิดให้การส่งเสริมการลงทุนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารอบใหม่ รวมทั้ง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ณ กรุงโซล ได้กำหนดให้ยานยนต์แห่งอนาคตเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายในการชักจูงการลงทุนจากเกาหลีใต้ในปีนี้ ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่มีบริษัทเกาหลีใต้เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมดังกล่าวในไทย จึงน่าจะเป็นโอกาสดีหากไทยจะพิจารณาจัดทำความร่วมมือกับเกาหลีใต้ ในอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต ซึ่งน่าจะเอื้อประโยชน์ให้ไทยได้เรียนรู้จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมของเกาหลีใต้รวมทั้งโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจของเกาหลีใต้โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคของประเทศเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคเศรษฐกิจสีเขียว ตามนโยบาย Green New Deal ดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมเป้าประสงค์ของไทยในการผลักดันให้ BCG เป็นวาระแห่งชาติ

.

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล

.

ขอบคุณรูปภาพจาก : https://grist.org/beacon/moon-goes-green/

Previous Post

ผลกระทบจากโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจกาตาร์ในปี 2563 และแนวโน้มทิศทางเศรษฐกิจกาตาร์

Next Post

จับตา! เวียดนามเตรียมบุกตลาดอาหารฮาลาลโลก

Tanakorn

Tanakorn

Glob Thailand Administrator

Next Post

จับตา! เวียดนามเตรียมบุกตลาดอาหารฮาลาลโลก

Post Views: 1,664

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

กว่างซีจ้วงเร่งเครื่องเศรษฐกิจสีน้ำเงิน โอกาสใหม่ของไทยในยุทธศาสตร์ทะเลจีน

กว่างซีจ้วงเร่งเครื่องเศรษฐกิจสีน้ำเงิน โอกาสใหม่ของไทยในยุทธศาสตร์ทะเลจีน

23/05/2025
เขต YRD ทะยานสู่ผู้นำโลกหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ และโอกาสความร่วมมือกับไทย ตอนที่ 3

เขต YRD ทะยานสู่ผู้นำโลกหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ และโอกาสความร่วมมือกับไทย ตอนที่ 3

22/05/2025
เจาะตัวเลขการค้าหูหนาน ไตรมาสแรก 2568

เจาะตัวเลขการค้าหูหนาน ไตรมาสแรก 2568

22/05/2025
ทิศทางความเคลื่อนไหวด้านพลังงานนิวเคลียร์ของไต้หวัน

ทิศทางความเคลื่อนไหวด้านพลังงานนิวเคลียร์ของไต้หวัน

22/05/2025
“โปรตีนทางเลือก” โอกาสสำหรับธุรกิจอาหารเพื่อความยั่งยืนในสิงคโปร์

“โปรตีนทางเลือก” โอกาสสำหรับธุรกิจอาหารเพื่อความยั่งยืนในสิงคโปร์

22/05/2025
สรุปข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาเดิน-เวือรืทเทิมแบร์ค

สรุปข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาเดิน-เวือรืทเทิมแบร์ค

22/05/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X