ในงานสัมมนาระดับสูง High Level Senminar – Project 2045 ที่กรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมฉลองการครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตอินโดนีเซีย – ญี่ปุ่น ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันเปิดตัว โครงการ Project 2045 อย่างเป็นทางการ โดยในส่วนของอินโดนีเซียมีนาย Jusuf Kalla รองประธานาธิบดีอินโดนีเซียและนาย Bambang Brodjonegoro รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนการพัฒนาแห่งชาติ และด้านญี่ปุ่นมีนาย Teru Fukui สมาชิกสภา นาย Tadahiko Ito สมาชิกสภา นาย Tsukasa Akirimoto รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสิ่งแวดล้อม และนาย Ishi Massafumi เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำอินโดนีเซียเข้าร่วม [su_spacer size=”20″]
ภายใต้โครงการ Project 2045 ผู้เชี่ยวชาญทั้งจากอินโดนีเซียและญี่ปุ่น รวมทั้ง UNDP Indonesia Economic Research และ Institute for ASEAN and East Asia (ERIA) ได้ร่วมกันจัดทําข้อเสนอแนะแนวทางการกระชับความเป็นหุ้นส่วน (partnership) ระยะยาวระหว่างอินโดนีเซีย – ญี่ปุ่น ภายในปี 2588 (ซึ่งเป็นปีที่ คาดว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียจะมีขนาดใหญ่เทียบเท่าเศรษฐกิจญี่ปุ่น ซึ่งจะทําให้ทั้งอินโดนีเซียและญี่ปุ่นจะอยู่ในกลุ่ม 5 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก) โดยรัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนเงินทุนสําหรับการดําเนิน Project 2045 [su_spacer size=”20″]
ข้อเสนอแนะภายใต้ Project2045 แบ่งเป็น 3 ด้าน ได้แก่ [su_spacer size=”20″]
1. การเมือง อาทิ (1) ให้ร่วมกันจัดการประชุมพหุภาคีระดับรัฐมนตรีเพื่อส่งเสริมเสรีภาพและความปลอดภัย ในการเดินเรือและการบินในภูมิภาค Indo-Pacific (2) ร่วมกันจัดตั้งความร่วมมือไตรภาคี (trilateral cooperation) กับ ประเทศในตะวันออกกลาง แอฟริกาและแปซิฟิกใต้ (3) ญี่ปุ่นยืนยันให้การสนับสนุนรัฐบาลอินโดนีเซียในการจัดตั้ง ม.อิสลามนานาชาติ ซึ่งอยู่ ระหว่างการก่อสร้างเพื่อส่งเสริมบทบาทของอินโดนีเซียในการเป็นต้นแบบการส่งเสริมศาสนาอิสลามที่สันติ (peaceful Islam) [su_spacer size=”20″]
2. เศรษฐกิจ อาทิ (1) ร่วมกันส่งเสริมการค้าเสรี (2) ดําเนินการวิจัยร่วมกันเกี่ยวกับกลยุทธ์ การส่งเสริมสินค้านําเข้า-ส่งออกระหว่างกัน (3) ร่วมมือด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน [su_spacer size=”20″]
3. สังคม อาทิ ร่วมกันจัดทําแผนแม่บท (Master Plan) เรื่องการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities) และการดําเนินการนําร่องในเมืองที่ได้รับการคัดสรร (select cities) ในพื้นที่หมู่เกาะรอบนอกห่างไกลของอินโดนีเซีย [su_spacer size=”20″]
นอกจากนี้ ในงานสัมมนาฯ รองประธานาธิบดีอินโดนีเซียได้เสนอให้มีการทบทวนความคืบหน้าของการดําเนิน Project 2045 เป็นระยะ (periodic review) เพื่อให้โครงการฯ บรรลุวัตถุประสงค์ และเห็นว่า Project 2045 ไม่เพียงแต่จะนําผลประโยชน์ประชาชนอินโดนีเซียและญี่ปุ่น แต่จะช่วยสร้างเสริมบทบาทของอินโดนีเซียและญี่ปุ่นในเวทีโลกด้วย [su_spacer size=”20″]
อีกทั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนการพัฒนาแห่งชาติอินโดนีเซียกล่าวว่า ใน ค.ศ. 2045 เศรษฐกิจอินโดนีเซียจะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ซึ่งจะทําให้ทั้งอินโดนีเซียและญี่ปุ่นจะอยู่ในกลุ่ม 5 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และศูนย์กลางกิจกรรมทางเศรษฐกิจของโลกอยู่ที่ภูมิภาคเอเชีย ดังนั้น อินโดนีเซียและญี่ปุ่นจะต้องกระชับความร่วมมือในทุกด้านโดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิต [su_spacer size=”20″]
และเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำอินโดนีเซียกล่าวว่า ญี่ปุ่นและอินโดนีเซียจะต้องร่วมกันเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกเพื่อรักษาค่านิยมร่วมกันในเรื่องการปกป้องสิทธิมนุษยชนและเศรษฐกิจตลาดเสรีให้ตกทอดไปยังคนรุ่นใหม่ของทั้งสองประเทศต่อไป [su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา