Monday, June 9, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

โอกาสด้านการค้า-ลงทุนของผู้ประกอบการไทยในรัฐอานธประเทศ

07/10/2021
in ทันโลก, เอเชีย
0
โอกาสด้านการค้า-ลงทุนของผู้ประกอบการไทยในรัฐอานธประเทศ
1
SHARES
33
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

กงสุลใหญ่ของไทยและมุขมนตรีแห่งเมืองเจนไน เล็งเห็นว่า ประเทศไทยและรัฐอานธประเทศ เป็นแหล่งการค้าการและการลงทุนที่มีศักยภาพสูงในภูมิภาค จึงเกิดแนวคิดผลักดันให้เกิดความร่วมมือทวิภาคีด้านการค้าและการลงทุนภายหลังยุค COVID-19 อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของสองประเทศ โดยท่านมุขมนตรี ได้เสนอจุดเด่นของรัฐอานธรประเทศว่าเป็นแหล่งการลงทุนชั้นนําแหล่งหนึ่งของอินเดีย มีบรรยากาศการลงทุนที่เป็นมิตรต่อนักลงทุน และมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่สามารถรองรับการลงทุนในหลากหลายสาขา โดยรัฐอานธรประเทศเป็นรัฐเดียวในอินเดียที่ริเริ่มระเบียงอุตสาหกรรม (Industrial Corridors) ถึง 3 แห่ง ที่พาดผ่านเมืองเศรษฐกิจต่างๆ ในอินเดียใต้ ได้แก่ (1) Visakhapatanam-Chennai (2) Chennai-Bengaluru และ (3) Kurnool-Bengaluru พร้อมทั้งพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานระดับสากลและระบบการขนส่งลําเลียง สินค้าทั้งทางบก ทางอากาศ และทางน้ำ ควบคู่กันเพื่อรองรับภาคอุตสาหกรรมการส่งออก และอยู่ระหว่างจัดตั้งและพัฒนาเขตอุตสาหกกรรมที่สําคัญ 2 แห่ง ได้แก่ (1) YSR Jaganana Mega Industrial Hub และ (2) Electronics Manufacturing Cluster (EMR) เพื่อมุ่งขับเคลื่อนการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของรัฐให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น นอกจากนี้ รัฐอานธรประเทศมีอัตรการหดตัวทางเศรษฐกิจในยุค COVID-19 น้อยกว่าอัตราการหดตัวเฉลี่ยของทั้งประเทศ โดย Gross State Domestic Product (GSDP) ในปีงบประมาณ 2563-2564 ลดลงจากปีงบประมาณ 2561-2562 เพียงร้อยละ 2.58 ในขณะที่ GSDP ของอินเดียโดยรวมลดลงจากร้อยละ 6.3 ในปีงบประมาณ 2561-2562 และลดลงร้อยละ 7.3 ในปีงบประมาณ 2563-2564

.

ด้านสถานการณ์ COVID-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของรัฐอานธรประเทศ โดยในช่วงสองปีที่ผ่านมาอัตราการส่งออกของรัฐเติบโตถึงร้อยละ 19.43 โดยรัฐอานธรประเทศถูกจัดอันดับเป็นรัฐของอินเดียที่มีอัตราการส่งออกสูงเป็นลําดับที่ 9 ในปีงบประมาณ 2561-2562 และเป็นลําดับที่ 7 ในปีงบประมาณ 2562-2563 และล่าสุด เป็นลําดับที่ 4 ในปีงบประมาณ 2563-2564 โดยมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นจาก 1.41 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเป็น 1.68 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ รัฐอานธรประเทศตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนมูลค่าการส่งออกของรัฐต่อมูลค่าส่งออกทั้งประเทศอินเดีย (State Contribution) เป็นสองเท่าตัวภายในปี 2573 (ปัจจุบันสัดส่วนฯ อยู่ที่ร้อยละ 5.8)

.

นอกจากนี้ กงสุลใหญ่ของไทยยังแสดงความขอบคุณต่อมุขมนตรีที่รัฐอานธรประเทศ ในการดูแลและคุ้มครองธุรกิจไทยในรัฐ โดยเฉพาะบริษัท CPF (India) ซึ่งได้เข้ามาลงทุนในธุรกิจสัตว์น้ำและสัตว์บกในรัฐตั้งแต่ปี 2548 โดยธุรกิจส่วนใหญ่ของบริษัทฯ ในประเทศอินเดียตั้งอยู่ในรัฐอานธรประเทศ โดยมีโรงงานสัตว์บก (Agro Feed Factory) 2 แห่ง สัตว์น้ำ (Aquatic Factories) 3 แห่ง และโรงเพาะฟักลูกกุ้ง (Shrimp Hatchery) 7 แห่ง ก่อให้เกิดการจ้างงานในรัฐ ทั้งนี้ มุขมนตรีได้เชิญชวนภาคเอกชนไทยให้เข้ามาลงทุนในรัฐอานธรประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในสาขา ITs และการก่อสร้างโรงแรม High-end และ Luxury ในแหล่งท่องเที่ยวที่สําคัญของรัฐ ซึ่งเป็นสาขาที่ฝ่ายไทยมีความชํานาญและเชี่ยวชาญ โดยกงสุลใหญ่ของไทยยังได้เชิญชวนให้ภาคเอกชนรัฐอานาธรประเทศเข้ามาลงทุนตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ แบบ BCG (Bio-Circular-Green) ของไทย โดยเฉพาะการลงทุนในเขตเศษฐกิจพิเศษและนิคมอุตสาหกรรมของไทย เช่น โครงการ EEC ซึ่งไทยให้สิทธิพิเศษและแรงจูงใจหลากหลายแก่นักลงทุน

.

ผู้ประกอบการไทยควรใช้ข้อได้เปรียบด้านความร่วมมือระหว่างเมืองเจนไนและไทย ในการต่อยอดธุรกิจโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำสำหรับนำมาทำเป็นวัตถุดิบประกอบอาหาร เช่น การจัดตั้งโรงเพาะกุ้ง หรือฟาร์มเลี้ยงปลา รวมไปถึงอุตสาหกรรมประเภทอื่น ๆ เช่น ธุรกิจด้านเทคโนโลยีที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ และธุรกิจด้านโรงแรมประเภท Luxury โดยอาจเสริมบริการนวดสปา ซึ่งเป็นบริการที่มีชื่อเสียงของไทยเพื่อดึงดูดผู้บริโภคในรัฐบาลอานธรประเทศ

.

สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจนไน

Previous Post

โอกาสการเเลกเปลี่ยนเเละการลงทุนด้านนวัตกรรมเเห่งอนาคต ณ สาธารณรัฐเช็ก

Next Post

ส่องแผนยุทธศาสตร์ของเกาหลีใต้ สู่การเป็น global vaccine hub

Tanakorn

Tanakorn

Glob Thailand Administrator

Next Post
ส่องแผนยุทธศาสตร์ของเกาหลีใต้ สู่การเป็น global vaccine hub

ส่องแผนยุทธศาสตร์ของเกาหลีใต้ สู่การเป็น global vaccine hub

Post Views: 645

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

07/06/2025
จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

06/06/2025
การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

05/06/2025
นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

05/06/2025
นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

05/06/2025
ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

06/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X