อายุรเวทในฮังการีเริ่มขึ้นเมื่อปี 2534 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ฮังการีให้ใบอนุญาตแก่ผลิตภัณฑ์อายุรเวทชิ้นแรก และได้ออกใบอนุญาตให้ผลิตภัณฑ์อายุรเวทเพิ่มเติมเรื่อยมา ต่อมาเมื่อปี 2539 มูลนิธิการแพทย์อายุรเวทฮังการี (Hungarian Ayurveda Medical Foundation) ได้ก่อตั้งขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทําการวิจัยวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับอายุรเวท และเผยแพร่การแพทย์อายุรเวทสู่สาธารณชน และเมื่อปี 2540 รัฐบาลฮังการีให้การยอมรับหัตถการบางประเภทของอายุรเวทเป็นการแพทย์ทางเลือก
กฎระเบียบที่เกี่ยวกับอายุรเวทในฮังการี
กฎหมายระดับ พรบ. ที่ 40/1997 วันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1997 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กํากับดูแลการรักษาโดยธรรมชาติ (Naturopathy) และครอบคลุมหัตถการบางประเภทที่มักถูกเชื่อมโยงกับอายุรเวท เช่น การฝังเข็ม (Acupuncture) การนวดกดจุดสะท้อน (Reflexology) และพฤกษบําบัด (Phytotherapy) รวมทั้งกําหนดวุฒิการศึกษาและการฝึกอบรมของผู้ให้บริการหัตถการ ซึ่งผู้ให้บริการบางประเภทต้องมีวุฒิแพทยศาสตร์
สําหรับผู้ประกอบการอายุรเวทที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัตถการข้างต้น เพื่อที่จะให้บริการในฮังการีอย่างถูกต้องตามกฎหมายจะต้อง (1) ได้รับประกาศนียบัตรการอบรมอายุรเวทจากสถาบันอายุรเวทที่ได้รับการยอมรับ (ไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันทางการแพทย์) (2) ได้รับใบอนุญาตจาก อย. ฮังการี และ (3) ลงทะเบียนเป็นผู้ประกอบการกับสภาผู้ประกอบการแพทย์ฮังการี (Hungarian Chamber of Healthcare Professionals – MESZK)
ความแพร่หลายด้านอายุรเวทในฮังการี
อย่างไรก็ดี สถาบันอุดมศึกษาในฮังการียังไม่ได้ให้ความสนใจอายุรเวทมากนัก ซึ่งอาจเป็นผลจากการที่ อายุรเวทไม่ได้จัดเป็นการแพทย์ทางเลือก โดยที่ผ่านมา มีการเปิดหลักสูตรอายุรเวทที่ (1) มหาวิทยาลัย Debrecen เคยมีหลักสูตรอายุรเวท สอนโดยอาจารย์แลกเปลี่ยนจากอินเดีย แต่ได้ยกเลิกไปในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 (2) มหาวิทยาลัย Miskolc มีหลักสูตรฝึกอบรมการแพทย์อินเดียซึ่งครอบคลุมอายุรเวท ภายใต้คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ (Health Sciences) และ (3) มหาวิทยาลัย Semmelweis กรุงบูดาเปสต์ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในฮังการีเปิดสอนวิชาอายุรเวทและการบําบัด โดยโยคะเป็นวิชาเลือกสําหรับนักศึกษาแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัย
การศึกษาวิจัยและการให้บริการหัตถการตามศาสตร์อายุรเวทได้รับการส่งเสริมโดยมูลนิธิการแพทย์อายุรเวทฮังการี โดยในปัจจุบัน มีสถานประกอบการอายุรเวทเอกชนที่สําคัญที่ให้บริการประชาชน เช่น (1) Hrishikesh Ayurveda กรุงบูดาเปสต์ (2) Ayurveda Központ กรุงบูดาเปสต์ เมือง Győr และเมือง Pécs (3) Ashwini Ayurveda กรุงบูดาเปสต์ (4) Calendula Ayurvédikus és Orvosi Klinika เมือง Siófok และ (5) Dr. Tamasi József Ájurvéda Központ กรุงบูดาเปสต์ ซึ่งส่วนใหญ่ให้บริการนวด การตรวจสุขภาพตามศาสตร์อายุรเวท การให้คําปรึกษาการใช้ชีวิต และบางแห่งมีการให้บริการควบคู่กับการรักษาตามธรรมชาติ
โอกาสสำหรับการแพทย์แผนไทย
การแพทย์แผนไทยซึ่งเน้นการกดจุดรักษา การใช้สมุนไพร (สุมยา เผายา ฯลฯ) และการนวด ซึ่งเป็นรูปแบบการรักษาในลักษณะเดียวกันกับ Naturopathy และอายุรเวท น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีในชาวฮังการีซึ่งมีทัศนคติเชิงบวกต่อการรักษาในรูปแบบนี้อยู่แล้ว นอกจากนี้ การนําเสนอการแพทย์แผนไทยในฮังการี สามารถใช้ประโยชน์จากความแพร่หลายของการนวดไทยในฮังการีในปัจจุบัน และสามารถใช้โอกาสจากการที่ยังไม่มีการให้บริการนวดที่เป็นไปตามหลักการนวดแผนไทยอย่างเป็นระบบ เป็นลู่ทางสร้างความร่วมมือกับฮังการีในด้านการแพทย์ทางเลือกต่อไป
ข้อมูล: สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์
เรียบเรียงโดย: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์