จับตาพฤติกรรมนักท่องเที่ยวยุโรปช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19
การท่องเที่ยวในยุโรปเริ่มมีการฟื้นตัวมากขึ้น โดยนักท่องเที่ยวชาวยุโรปมีการปรับตัวให้เข้ากับสภาพเงื่อนไข ข้อจํากัดเกี่ยวกับ COVID-19 ซึ่งส่วนใหญ่เริ่มหันมาใช้ระบบดิจิทัลในการวางแผนการท่องเที่ยวรวมถึงการจองที่พักและบริการต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์มากกว่าการซื้อแพคเกจทัวร์จากบริษัทท่องเที่ยวแบบเดิม ขณะเดียวกัน พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวยุโรป ยังคงแสดงถึงความกังวลเรื่องสิทธิความเป็นส่วนตัวในการใช้สื่อดิจิทัล อย่างสื่อโซเชียลมีเดีย เนื่องจากประเด็นการตรวจสอบและติดตามข้อมูล
.
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวชาวยุโรปหันมาเน้นการท่องเที่ยวระยะสั้นไม่เกิน 1 สัปดาห์ ในพื้นที่และประเทศที่ไม่ต้องเดินทางไกล อย่างการท่องเที่ยวในยุโรปเป็นหลัก เนื่องจากหลายประเทศนอกภูมิภาคมีข้อจํากัดที่เข้มงวดในการเดินทางช่วงที่มีการระบาดฯ
.
ด้านธุรกิจที่พัก พบว่า โรงแรมขนาดใหญ่ต้องแข่งขันกับธุรกิจที่พักระยะสั้นและมีราคาถูก เช่น AirBNB ซึ่งผู้ประกอบการโรงแรมใหญ่ต้องเน้นสร้างจุดขาย อย่างการให้บริการที่มีมาตรฐานสูง ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบที่โรงแรมหรือธุรกิจที่พักขนาดเล็กไม่สามารถมอบให้กับผู้เข้าพักได้ อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวในยุโรปมีความระมัดระวังเรื่องค่าใช้จ่าย และราคามากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผลกระทบจากรายได้ของบุคคลที่ลดลงไปจากการระบาดของ COVID-19 ดังนั้น ‘ความคุ้มค่า’ จึงเป็นปัจจัยสําคัญในการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว อีกทั้งบางส่วนยังเสนอว่าควรมีความยืดหยุ่นสำหรับนโยบายการยกเลิก หรือปรับเปลี่ยนช่วงเวลาเดินทางและเข้าพักให้มากขึ้น โดยยังคงจ่ายในราคาเท่าเดิม หรือไม่ถูกปรับ รวมถึงได้รับเงินคืนในสัดส่วนที่เหมาะสม หากมีการยกเลิกการเดินทาง
.
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยุโรปยังมีความกังวลเกี่ยวกับมาตราการของแต่ละประเทศ เช่น มาตรการควบคุมการเข้าเมือง มาตรการการควบคุมการแพร่กระจายของโรค COVID-19 และมาตรการทางสาธารณสุขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ยิ่งไปกว่านั้น นักท่องเที่ยวยุโรปให้ความสําคัญมากขึ้นกับประเด็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือ Green Tourism ซึ่งมีส่วนสําคัญในการช่วยตัดสินใจเลือกที่พักและบริการ
.
จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่า ประเด็นเรื่องความคุ้มค่าผนวกกับมาตรการควบคุมการเข้าเมือง มีความสำคัญต่อการตัดสินใจท่องเที่ยวของชาวยุโรปค่อนข้างมาก โดยปัจจุบัน พบว่า มีการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron ซึ่งกระทบต่อการท่องเที่ยวทั่วโลก โดยประเทศไทยเอง ได้มีการยกเลิกใช้มาตรการ Test & Go และเปลี่ยนมาใช้มาตรการกักตัวแบบ 14 วันแบบเดิม ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทยด้านธุรกิจที่พัก ควรรักษามาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสุขอนามัยให้มีคุณภาพอยู่เสมอ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวของคนในประเทศ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในกรณีที่สถานการณ์การแพร่ระบาดฯ ในอนาคต คลี่คลายขึ้น
.
************************
.
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเอเธนส์