ในวันที่โลกของเรากำลังเข้าสู่ยุคปัญญาประประดิษฐ์ หนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญที่หลายประเทศกำลังผลักดันคือ อุตสาหกรรมชิปและเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเปรียบเสมือนสมองของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยุคใหม่ที่สามารถรับ-ส่งข้อมูลและประมวลได้ โดยชิปเหล่านี้คือ แผงวงจรไฟฟ้าขนาดเล็กที่ผลิตมาจากสารกึ่งตัวนำไฟฟ้าที่เป็นแร่ธาตุจากธรรมชาติ ดังนั้น ประเทศที่มีทรัพยากรแร่ธาตุมากย่อมได้เปรียบในการผลิตชิปและเซมิคอนดักเตอร์ และหนึ่งในนั้นคือ ประเทศออสเตรเลีย
ออสเตรเลีย ถือเป็นประเทศผู้ส่งออกแร่สังกะสีมากเป็นอันดับสามของโลก เนื่องจากมีโรงกลั่นแร่บ็อกไซต์เพื่อผลิตอะลูมิเนียมตั้งอยู่ที่รัฐ Western Australia มากถึง 6 แห่ง ซึ่งแร่ที่เป็นของเสียในโรงกลั่นดังกล่าวสามารถนำมาใช้เป็นวัสดุสำคัญในการผลิตชิปได้ โดย Gallium มีคุณสมบัติทนต่ออุณหภูมิได้สูง สามารถผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ความเร็วสูงและ LED ส่วน Germanium เป็นแร่ธาตุที่ได้จากการขุดตะกั่วและสังกะสีที่สามารถนำมาผลิตเทคโนโลยีสีเขียว เช่น แผงโซลาร์เซลล์และไฟเบอร์ออปติกได้
ทั้งนี้ ทางองค์การวิจัยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งเครือจักรภพ (CSIRO) ประเทศออสเตรเลีย อยู่ระหว่างการพัฒนานวัตกรรมในการดึงแร่ที่เป็นของเสียในโรงกลั่นดังกล่าว มาใช้ในอุตสาหกรรมชิป ทดแทนการใช้ซิลิคอน แกลเลียมมีความสำคัญต่อการ นอกจากนี้ยังใช้ในการผลิตเซลล์โฟโตวอลตาอิค (PV) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานในความถี่และอุณหภูมิสูง ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสื่อสารทางทหารและดาวเทียม
ที่มา :
- สำนักข่าว Nikkei Asia ; https://asia.nikkei.com/Business/Technology/Australia-looks-to-mining-waste-for-cutting-edge-chip-materials
- เว็บไซต์ Longtunman ; https://www.longtunman.com/10722
- หน่วยงาน CSRIO ; https://www.csiro.au/en/news/all/articles/2024/june/critical-mineral-gallium-germanium