การมีทำเลที่ตั้งอยู่บนบริเวณวงแหวนแห่งไฟของโลก แม้จะมีข้อเสียที่ต้องเผชิญเหตุการณ์ฉุกเฉินจากภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง แต่ในอีกมุมก็เป็นผลดีที่ทำให้อินโดนีเซียมีทรัพยากรความร้อนใต้พิภพมากเป็นอันดับที่ 2 ของโลก เป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกา ซึ่งพลังงานความร้อนใต้พิภพถือเป็นพลังงานสะอาดที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการนำมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ทั้งยังเป็นพลังงานที่อยู่ใต้ดิน จึงไม่ถูกผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวนเหมือนอย่างพลังงานลมหรือพลังงานแสงอาทิตย์ และสิ่งนี้เองที่ช่วยดึงดูดบริษัทด้านพลังงานจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนตั้งโรงไฟฟ้าในอินโดนีเซียได้
โดยล่าสุด บริษัท Tokyo Electric Power Co. หรือ TEPCO ภาคเอกชนผู้ประกอบธุรกิจด้านพลังงานสัญชาติญี่ปุ่น ร่วมมือกับ Pertamina รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตน้ำมันของอินโดนีเซีย ก่อตั้งโรงไฟฟ้าจากพลังงานไฮโดรเจนขึ้นในพื้นที่ภาคตะวันออกของอินโดนีเซีย โดยทางTEPCO อยู่ระหว่างการผลิตเทคโนโลยีเพื่อดึงความร้อนจากแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพมาทำปฏิกิริยากับน้ำที่ดึงเอาไฮโดรเจนออกไปแล้ว ให้เกิดเป็นไอน้ำเพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า เบื้องต้นมีการคาดการณ์ว่า โรงไฟฟ้าดังกล่าวจะสามารถผลิตไฮโดรเจนได้มากถึง 140 ตันต่อปี
แหล่งที่มา
- สำนักข่าว Nikkei Asia ;
https://asia.nikkei.com/Business/Energy/Japan-s-TEPCO-to-make-hydrogen-in-Indonesia-with-geothermal-power - องค์กร JOGMEC (Japan Organization for Metals and Energy Security) ;
https://www.jogmec.go.jp/english/geothermal/geothermal_10_000005.html - เว็บไซต์ iEnergyGuru ;
https://ienergyguru.com/2015/09/geothermal-power-plant/ - เว็บไซต์ BANGKOKBANK SME ;
https://www.bangkokbanksme.com/en/geothermal-energy-dont-generate-co2