เมื่อยุคสมัยที่ก้าวหน้าทำให้ AI ช่วยคิดและวิเคราะห์สิ่งต่างๆเป็นที่นิยมมากขึ้น ทั้งในด้านชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมต่างๆทั่วโลกทำให้ AI เข้ามา เช่นในด้านการใช้ชีวิตประจำวันที่สั่งงานด้วยเสียงในการเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้อย่างสะดวกสบาย (Smart Home) การสั่งงานให้โทรและรับ-ส่งข้อความโดยที่ไม่ต้องจับโทรศัพท์ (Google Assistant) หรือการที่อุตสาหกรรมการแพทย์ที่ในปัจจุบันก็เริ่มมีการใช้ AI ในการวินิจฉัยและติดตามอาการผู้ป่วย รวมไปถึงการที่บริษัทด้านเทคโนโลยีอย่าง Apple, Samsung หรือ LG ก็มีการโปรโมทผลิตภัณฑ์ใหม่ๆผ่าน AI เช่นเดียวกัน
โดยหากพูดถึงการทำงานของ AI ที่เห็นได้ชัดในชีวิตประจำวันอย่างแพร่หลายแล้วนั้นอาจพบเห็นได้อย่างง่ายดาย เช่น ระบบ Face ID ในการเข้าถึงสื่อหรือโปรแกรมต่างๆที่มีความปลอดภัยสูง ระบบนำทางอย่าง Google Map ที่สามารถตรวจสอบเส้นทาง ประเมินสภาพอากาศและสภาพการจราจรได้อย่างแม่นยำก่อนเดินทาง หรือเครื่องมือแปลภาษาที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวที่จะช่วยทำให้การเดินทางในต่างประเทศไม่ยากอีกต่อไป
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ จาก google ที่ได้รับเสียงตอบรับด้านการใช้งานอย่างล้นหลามจากผู้ใช้งานทั่วโลกทั้งในด้านชีวิตประจำวันและด้านธุรกิจ ด้วยการใช้งานที่ง่ายดาย และ UI ที่เข้าใจง่าย การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆด้วยความแม่นยำและเสถียรด้วยระบบอัลกอริทึมและ AI ที่แข็งแรง ทำให้กวาดกำไรในไตรมาส 3 ไปถึง 26,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยคิดเป็น 13.6% เป็นอันดับ 3 รองจาก Microsoft Copilot 14.4% และ 59.4% ของอันดับ 1 อย่าง ChatGPT
ที่มา
- สำนักข่าว reuters : https://www.reuters.com/technology/google-parent-alphabet-beats-quarterly-revenue-estimates-2024-10-29
- เว็บไซต์ DIA : https://www.dia.co.th/articles/ai-in-daily-life/
- เว็บไซต์ FirstPageSage : https://firstpagesage.com/reports/top-generative-ai-chatbots/