การเปิดโรงงานพิมพ์อาหาร 3 มิติที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายใต้ชื่อ “Taste Factory” ในกรุงเวียนนา โดยบริษัท Revo Food สัญชาติออสเตรีย และจะปฎิวัติอุตสาหกรรมการผลิตอาหารจากพืชด้วยเทคโนโลยี “3D Structuring” ที่สามารถเลียนแบบเนื้อสัมผัสของของเนื้อสัตว์โดยใช้ไมคอโปรตีน (mycoprotein) เป็นโปรตีนที่ได้จากกระบวนการหมักไมซีเลียม (mycelium) ซึ่งกระบวนการผลิตนี้ใช้การผสมผสานวัตถุดิบต่าง ๆ เช่น ไขมันและโปรตีน เพื่อเลียนแบบเนื้อสัมผัสเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อปลาและสเต็กจากพืช ซึ่งแตกต่างจากการผลิตอาหารแบบดั้งเดิมที่ต้องใช้ความร้อนสูง อาจทำให้สารบางชนิดสูญเสียไป แต่การพิมพ์ 3 มิติใช้ความร้อนต่ำกว่า จึงสามารถคงไว้ซื้อสารอาหารที่สำคัญได้
โรงงานนี้สามารถผลิตอาหารได้สูงสุดถึง 60 ตันต่อเดือน และถือเป็นโรงงานแรกของโลกที่นำเทคโนโลยีพิมพ์อาหาร 3 มิติมาใช้ในระดับอุตสาหกรรม โดยมีผลิตภัณฑ์แรกที่ชื่อว่า “The filet” เป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกแทนปลาแซลมอน ซึ่งจะวางจำหน่ายในซูเปอร์มาเก็ตยุโรปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 และผลิตจากไมคอโปรตีน ปราศจากคอเลสเตอรอล น้ำตาล และกลูเตน อีกทั้งยังอุดมไปด้วยโอเมก้า-3 วิตามินและไฟเบอร์
เทคโนโลยี “3D Structuring” ยังช่วยให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ได้อย่างรวดเร็วและปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของลูกค้าได้หลากหลาย อาจนำไปสู่การขยายตัวของอาหารตลาดจากพืชอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Revo Foods ยังสำรวจศักยภาพของโภชนาการส่วนบุคคลที่นำไปสู่โซลูชันอาหารแบบปรับแต่งได้เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการด้านอาหารของแต่ละบุคคล
หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีอาหารของ Revo Foods กล่าวเสริมว่า ไมซีเลียมที่ผ่านการหมักกำลังเป็นที่นิยมเพราะมีความคงตัวตามธรรมชาติซึ่งต้องการกระบวนการแปรรูปน้อย และมีความหนาแน่นของสารอาหารที่สูงมาก อย่างไรก็ตาม อาหารในรูปแบบบริสุทธิ์อาจมีรสชาติที่จืดชืด ดังนั้น Revo Foods เชื่อว่าการสร้างสมดุลระหว่างความยั่งยืนและความอร่อยของอาหารเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอาหารในอนาคต
ข้อมูล : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา