เรื่อง Talk of the town ในเวลานี้ คงหนีไม่พ้นสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาเร่งด่วนที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งทุกฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขปัญหากันอยู่ขณะนี้
ในอดีต จีนเคยผ่านประสบการณ์ที่ต้องแลก ‘ความเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจ’ กับ ‘วิกฤตสิ่งแวดล้อม’ มาก่อน การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรสู่สังคมอุตสาหกรรมของจีน ทำให้จีนต้องประสบปัญหา ‘ฝุ่นพิษ’ ปกคลุมท้องฟ้าขั้นวิกฤตในหลายเมืองทั่วประเทศ สร้างผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดันให้เรื่อง “การปรับปรุงคุณภาพอากาศ” กลายเป็นวาระแห่งชาติ
แต่… จีนในวันนี้ ได้กลับมา ‘ฟ้าสวย น้ำใส’ แล้ว สงสัยหรือไม่ว่า…จีนก้าวผ่านเรื่องราวดังกล่าวมาได้อย่างไร รัฐบาลจีนบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองสิ่งแวดล้อมชนิด ‘เข้มข้น’ โดยในช่วงเริ่มต้นการทำ ‘สงครามต้านฝุ่น’ รัฐบาลจีนใช้การดำเนินนโยบาย ‘หักดิบ’ เพื่อลดปริมาณฝุ่นพิษในอากาศ ส่วนกลางได้กำหนด KPI หรือ Key Performance Indicator (ตัวชี้วัดประสิทธิภาพการทำงาน) ให้กับรัฐบาลท้องถิ่นในการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ มีการสั่งปิดโรงงานเก่าและโรงไฟฟ้าถ่านหินที่สร้างมลพิษทางอากาศ การจัดระเบียบสังคมด้วยการควบคุมปริมาณรถยนต์สันดาปส่วนบุคคลที่วิ่งบนท้องถนน และการห้ามเผาในพื้นที่เกษตรหลังการเก็บเกี่ยว เช่น ฟาง ตอซัง และเศษพืชเหลือทิ้ง
สามารถอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่