นครแฟรงก์เฟิร์ตมีแผนทดสอบการเดินรถรางไฟฟ้าแบบใช้พลังงานจากแบตเตอรี่สายแรกบริเวณริมฝั่งด้านทิศเหนือแม่น้ำไมน์ ซึ่งได้แนวคิดและต้นแบบจากเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ที่ประสบความสําเร็จในการเดินรถรางไฟฟ้า 2 สาย ที่เริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2018 โดยจะปิดถนน Mainkai ระหว่างทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของเมือง ซึ่งโดยปกติจะมีรถยนต์และรถบรรทุกใช้งานจํานวนมาก เพื่อทดสอบการเดินรถรางระหว่างเดือนสิงหาคม 2562 ถึงสิงหาคม 2563 เป็นระยะเวลา 13 เดือน ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการส่งเสริมการดําเนินนโยบายการลดปริมาณการใช้รถยนต์ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตเมืองให้ได้ร้อยละ 25 ทั้งนี้ หากการทดสอบประสบผลสําเร็จ นครแฟรงก์เฟิร์ตจะจัดการประกวดการออกแบบผังเมืองสําหรับเขตเมืองด้านในของนครแฟรงก์เฟิร์ต โดยเน้นให้พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสถานที่สําหรับพักผ่อน [su_spacer size=”20″]
ฝ่ายคมนาคมของนครแฟรงก์เฟิร์ตวางแผนที่จะเดินรถรางไฟฟ้าฯ เพื่อให้บริการผู้โดยสารสําหรับเขต “เมืองนีซแห่งแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurter Nizza)” (บริเวณฝั่งแม่น้ำไมน์ด้านติดกับเมืองเก่าและใจกลางเมือง มีลักษณะเป็นโอเอซิสแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ทางพฤกษชาติคล้ายคลึงกับเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส) โดยคาดว่าจะใช้รถรางซีรีส์ T จากบริษัท Alstom อาทิ รุ่น Citadis ที่พร้อมส่งมอบขบวนรถในปี ค.ศ. 2021 เนื่องจากรถรางรุ่นนี้มีแบตเตอรี่ที่สามารถเก็บพลังงานไฟฟ้าและสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ทั้งระหว่างการจอดรับ-ส่งผู้โดยสารหรือที่สถานีปลายทาง โดยไม่ต้องใช้เสาไฟและสายจ่ายไฟแต่อย่างใด จึงไม่ส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพของเมือง [su_spacer size=”20″]
นอกจากการนํารถรางไฟฟ้าฯ มาใช้ในการเชื่อมเส้นทางระหว่างทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของเมืองแล้ว นครแฟรงก์เฟิร์ตยังพิจารณาความเป็นไปได้ในการเปิดให้บริการแท็กซี่ทางน้ำบนแม่น้ำไมน์ เพื่อเชื่อมต่อกับทางรถไฟสายหลักของเมืองด้วย และเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนในการใช้บริการขนส่งสาธารณะ [su_spacer size=”20″]
นครแฟรงก์เฟิร์ตอาจพิจารณาการขยายเส้นทางรถไฟควบคู่ไปกับการประกวดการออกแบบผังเมือง ซึ่งในเบื้องต้นอาจยังไม่จําเป็นต้องลงทุนด้านระบบสาธารณูปโภคมากนัก โดยอาจนํารถรางไฟฟ้าฯ มาใช้ในเส้นทางเดินรถระหว่างท่าเรือตะวันตก (Westhafen) ผ่านธนาคารกลางยุโรป และสิ้นสุดที่สวนสาธารณะ Hafenpark ซึ่งอยู่ในพื้นที่ท่าเรือตะวันออก โดยเส้นทางเดินรถดังกล่าวจะเป็นจุดดึงดูดที่น่าสนใจสําหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย อย่างไรก็ดี ยังไม่สามารถให้คําตอบได้ว่า ในอนาคตจะมีการนํารถรางแบบใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้ร่วมกับรถรางไฟฟ้าแบบเดิม ตามผังเส้นทางเดินรถรางที่มีอยู่ด้วยหรือไม่ [su_spacer size=”20″]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต มีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า นครแฟรงก์เฟิร์ตมีความพยายามที่จะดําเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดปัญหาการจราจรและมลภาวะทางอากาศอย่างมาก โดยเฉพาะภายหลังจากที่ศาลปกครองเมืองวีสบาเด้น มีคําสั่งห้ามใช้รถดีเซลไม่ผ่านมาตรฐานยูโร 6 ในนครแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2561 ถึงแม้ว่านครแฟรงก์เฟิร์ตจะสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดแห่งรัฐเฮสเซ็น เพื่อชะลอการห้ามใช้รถดีเซลตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2562 ได้เป็นผลสําเร็จแล้วก็ตาม ดังนั้น การนํารถรางแบบใช้ พลังงานจากแบตเตอรี่มาให้บริการขนส่งสาธารณะจึงเป็นความพยายามหนึ่งของการเร่งดําเนินการตามแผนงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพของอากาศในนครแฟรงก์เฟิร์ตให้ดีขึ้นและรักษาระดับการปล่อย NO2 ให้อยู่ในระดับที่กําหนด [su_spacer size=”20″]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์