Deutsche Bank จะถูกปรับออกจากดัชนี Euro Stoxx 50 Index [su_spacer size=”20″]
ในวันที่ 24 กันยายน 2561 คาดว่า Deutsche Bank จะถูกปรับออกจากการเป็นหนึ่งใน 50 บริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในยู โรโซนที่ทำการซื้อขายใน EuroStoxx 50 Index ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นบริษัทชั้นดี (blue chips) ที่สำคัญที่สุดในยุโรป เนื่องจากมีราคาหลักทรัพย์ที่ ลดลงอย่างมากตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จากที่เคยมีมูลค่าทางการตลาด สูงที่สุดเมื่อปี ค.ศ. 2007 จากนั้นมูลค่าหลักทรัพย์ โดยรวมลดลงไปถึงร้อยละ 90 โดยหากนับเฉพาะปีนี้ มูลค่าหลักทรัพย์ ลดลงไปถึงร้อยละ 37 และจะถูกแทนที่โดย บริษัท Linde ของเยอรมนี ซึ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมก๊าซชั้ นนำของโลกที่อยู่ระหว่ างการเจรจาควบรวมกิจการกับ บริษัท Praxair ของสหรัฐ ฯ [su_spacer size=”20″]
ปัจจุบันมีบริษัทขนาดใหญ่ ของเยอรมนี้อยู่ในดัชนี EuroStoxx 50 Index หลายบริษัท อาทิ SAP Siemens Allianz และ Daimler เป็นต้น โดยนอกจาก Deutsche Bank แล้ว ยังมี บริษัท E.ON ซึ่งเป็นบริษัทด้านพลั งงานรายใหญ่ของเยอรมนีจะถูกปรั บออกจากดัชนี EuroStoxx 50 Index เช่นกัน [su_spacer size=”20″]
การที่ Deutsche Bank ถูกปรับออกจากดัชนี Euro Stoxx 50 Index ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาพลักษณ์ และราคาหุ้น โดยก่อนหน้านี้ มูลค่าหลักทรัพย์ของธนาคารได้ ลดลงมาถึงร้อยละ 30 อยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านยูโร ส่งผลให้นักลงทุนเกิดข้อกังขาถึ งแนวทางการบริหารงานของนาย Christian Sewing ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของธนาคาร และกำลังถูกจับตามองถึงการปรั บกลยุทธ์ของธนาคารในอนาคตอั นใกล้เพื่อเรียกความเชื่อมั่ นให้กลับคืนมาโดยเร็ว [su_spacer size=”20″]
Commerzbank จะถูกปรับออกจากดัชนี DAX Index [su_spacer size=”20″]
ในวันที่ 24 กันยายน 2561 Commerzbank ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของสหพันธ์ฯ และเป็นสมาชิกร่วมก่อตั้ง DAX Index ในตลาดหลักทรัพย์เยอรมัน (Deutsche Borse) จะถูกปรับออกจากดัชนี DAX Index ซึ่งเป็นดัชนีซื้อขายหลักทรัพย์ สำหรับหุ้นของบริษัทชั้นดี (blue chips) จำนวน 30 บริษัทแรก และจะถูกแทนที่โดย บริษัท Wirecard ซึ่งเป็นบริษัทที่ใช้เทคโนโลยี มาประยุกต์ทำธุรกรรมการเงิน (fintech) รายใหญ่ของสหพันธ์ฯ จากรัฐบาวาเรีย โดยหลักทรัพย์ของ Commerzbank จะถูกรวมเข้าไปอยู่ในกลุ่ม MDax Index หรือ กลุ่มหลักทรัพย์ของบริษั ทขนาดกลางแทน [su_spacer size=”20″]
บริษัท Wirecard ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1999 ที่นครมิวนิก มีรายได้หลักจากการให้บริ การชำระค่าบริการสินค้าผ่านบั ตรเครดิตออนไลน์ ด้วยการรับประกันการชำระเงิ นและรับความเสี่ยง การออกบัตรเครดิต การพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรั บการชำระเงินในสังคมไร้เงินสด และการอำนวยความสะดวกในการชำระค่ าบริการสินค้าผ่าน Smart phone รวมทั้งมีความร่วมมือกับบริษั ทด้านการชำระเงิน Alipay และ WeChat ของจีน ทำให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุ นจำนวนมาก โดยในปีนี้ราคาหุ้นของบริษัทเพิ่ มขึ้นถึงร้อยละ 110 [su_spacer size=”20″]
หนึ่งในปัจจัยที่ใช้ในการพิ จารณาการเข้าสู่ DAX Index คือ มูลค่าทางการตลาดของบริษัท ซึ่งบริษัท Wirecard มีมูลค่าทางการตลาดประมาณ 23,000 ล้านยูโร สูงกว่ามูลค่าทางการตลาดของ Commerzbank ถึง 2 เท่า (10,000 ล้านยูโร) และยังมีมูลค่าทางการตลาดสูงกว่ า Deutsche Bank (20,500 ล้านยูโร) อีกด้วย ทำให้ขณะนี้บริษัท Wirecard กลายเป็นกลุ่มผู้ให้บริ การทางการเงินที่ใหญ่เป็นลำดั บที่ 3 ของสหพันธ์ฯ รองจาก Allianz และ Munich Re [su_spacer size=”20″]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต