Tuesday, June 17, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

ภาพรวมเศรษฐกิจเยอรมนี ปี 2563

19/02/2021
in ทันโลก, ยุโรป
0
13
SHARES
583
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

GDP ปี 2563 ลดลงรวมร้อยละ 5 ซึ่งนับเป็นปีแรกในรอบ 10 ปี ที่ GDP รวมของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (สหพันธ์ฯ) หดตัวลง หลังจากเพิ่มขึ้นมาตลอดทุกปี โดยในช่วงครึ่งปีแรกเศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 (lockdown ครั้งที่ 1) และกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในไตรมาสที่ 3 ก่อนจะได้รับผลกระทบอีกครั้งจากการ lockdown ครั้งที่ 2 (กลางเดือน ธ.ค. 2563 ถึงปัจจุบัน โดยในชั้นนี้คาดว่ามาตรการ Lockdown ครั้งที่ 2 จะสิ้นสุดในวันที่ 7 มี.ค. 2564) อย่างไรก็ตาม ตัวเลข GDP โดยรวมของปี 2563 ดีกว่าการคาดการณ์ของธนาคารกลางแห่งสหพันธ์ฯ (The Deutsche Bundesbank) ที่คาดว่า GDP รวมจะหดตัวลงถึงร้อยละ 5.5

.

การจ้างงาน

.

อัตราการว่างงานปี 2563 อยู่ที่ร้อยละ 5.9 (สูงกว่าปี 2562 ที่มีอัตราการว่างงานรวมที่ร้อยละ 5.0) อัตราค่าจ้างและเงินเดือนต่อคน ลดลงที่ร้อยละ 0.4 (ลดลงจากปี 2562 ที่อัตราค่าจ้างและเงินเดือนต่อคนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9) อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของ COVID-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออัตราการจ้างงานมากนักในภาพรวม เนื่องจาก การจ้างงานได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหพันธ์ฯ ภายใต้โครงการ short-time work โดยเมื่อสหพันธ์ฯ ใช้มาตรการ lockdown ครั้งที่ 2 เมื่อกลางเดือน ธ.ค. 2563 จํานวนการลงทะเบียน short-time work พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง ทั้งนี้ แรงงานที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ แรงงานในภาคอุตสาหกรรมโลหะ ไฟฟ้า และเหล็ก แรงงานชั่วคราว และแรงงานจากภาคอุตสาหกรรมโรงแรมและอาหาร

.

การค้า

.

การส่งออกหดตัวลงรวมร้อยละ 9.3 (มูลค่าการส่งออกรวม 1,204.7 พันล้านยูโร) โดยการส่งออกภาคบริการได้รับผลกระทบมากกว่าภาคการผลิต และการนําเข้าลดลงร้อยละ 7.1 (มูลค่าการนําเข้ารวม 1,025.6 พันล้านยูโร) โดยสหพันธ์ฯ ได้ดุลการค้าต่างประเทศรวมจํานวน 179.1 พันล้านยูโร โดยตลาดส่งออกสําคัญ 3 อันแรกของสหพันธ์ฯ ได้แก่ สหรัฐฯ จีน และฝรั่งเศส และตลาดนําเข้าที่สําคัญ 3 อันดับแรก ได้แก่ จีน เนเธอร์แลนด์ และสหรัฐฯ

.

การผลิต

.

นับแต่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหพันธ์ฯ หดตัวลงเรื่อย ๆ และกลับมาขยายตัวอีกครั้งในเดือน พ.ย. 2563 โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 เทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของภาคยานยนต์ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลัก รวมถึงอุปกรณ์ IT อุปกรณ์เกี่ยวกับสายตา และเครื่องจักรกล นอกจากนี้ สถิติการลงทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.5 ในเดือน ธ.ค. 2563 (135,000 คัน) ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่าการลงทะเบียนรถยนต์ใหม่โดยเฉลี่ยต่อเดือนของปี 2561 และ 2562 อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปี 2563 ผลผลิตจากภาคยานยนต์จะลดลงรวมถึงร้อยละ 25 ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่ตกต่ำที่สุดนับแต่การรวมประเทศของสหพันธ์ฯ และจะเป็นสถิติที่ลดลงต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 33

.

แนวโน้มเศรษฐกิจสหพันธ์ฯ ปี 2564

.

รัฐบาลสหพันธ์ฯ คาดว่า ในปี 2564 GDP จะขยายตัวขึ้นร้อยละ 3 ภายหลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 น่าจะอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ตามแผนการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน โดยคาดว่าสหพันธ์ฯ จะใช้มาตรการควบคุม COVID-19 ในปัจจุบันจนถึงช่วงเดือน มี.ค. 2564 และจะค่อย ๆ ผ่อนคลายมาตรการลง ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของ COVID-19 และปริมาณการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสจะเป็นตัวแปรสําคัญที่จะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสหพันธ์ฯ ในปี 2564 โดยคาดว่าอัตราผู้ติดเชื้อจะยังไม่ลดลงอย่างมีนัยสําคัญก่อนไตรมาสที่ 2 และการฉีดวัคซีนน่าจะครอบคลุมจํานวนคนได้มากพอในช่วงฤดูร้อน รวมทั้งคาดว่าเศรษฐกิจสหพันธ์ฯ น่าจะกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 เป็นต้นไป

.

การส่งออกและนําเข้า คาดการณ์ว่าจะขยายตัวขึ้นร้อยละ 6.4 และร้อยละ 7.2 ตามลําดับ การอุปโภคบริโภคของเอกชนจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนและจะขยายตัวขึ้นร้อยละ 4.7 อัตราการว่างงานจะลดลงเล็กน้อยจากปี 2563 เหลือร้อยละ 5.8 อุตสาหกรรมยานยนต์จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในปี 2564 โดยจะขยายตัวขึ้นร้อยละ 30

.

รัฐบาลสหพันธ์ฯ ได้ตั้งงบประมาณกว่า 50 พันล้านยูโร เพื่อดําเนินโครงการและมาตรการในการส่งเสริมด้าน ดิจิทัล การคุ้มครองสภาพภูมิอากาศและการสัญจรอย่างยั่งยืน การพัฒนาการศึกษาและการวิจัย นอกจากนี้ สหพันธ์ฯ ยังมุ่งเพิ่มการสร้างหลักประกันสําหรับแรงงานทักษะสูงในสหพันธ์ฯ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมให้สหพันธ์ฯ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในระยะยาวด้วย

.

การจัดอันดับศักยภาพเศรษฐกิจของสหพันธ์ฯ ในปี 2563

.

  1. Ease of Doing Business 2020 โดย World Bank จัดให้สหพันธ์ฯ อยู่ในอันดับที่ 22 (ไทยอยู่อันดับที่ 21)
  2. IMD’s World Competitiveness Ranking 2020 สหพันธ์ฯ ยังคงอยู่ที่อันดับ 17 เช่นเดียวกับในปี 2562
  3. Global Innovation Index 2020 โดย WIPO สหพันธ์ฯอยู่ในอันดับที่ 9 (อันดับคงที่จากปี 2562)
  4. US News จัดให้สหพันธ์ฯเป็นอันดับที่ 4 ใน The Best Countries in the World (รองจากสวิตเซอร์แลนด์ แคนาดา และญี่ปุ่น) และจัดให้สหพันธ์ฯ อยู่ในอันดับที่ 17 Open for Business 2020

.

ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไทย-สหพันธ์ฯ

.

การค้าไทย-สหพันธ์ฯ ปี 2563 มีมูลค่ารวมจํานวน 9,283.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ลดลงร้อยละ 14.22 จากปี 2562) โดยแบ่งเป็นมูลค่าการส่งออก 4,071.33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ลดลงร้อยละ 10.23 จากปี 2562) และ มูลค่าการนําเข้า 5,212.24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ลดลงร้อยละ 17 จากปี 2562)

.

ในช่วงปี 2562-2563 สินค้าส่งออกของไทยไปสหพันธ์ฯ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) อัญมณีและเครื่องประดับ 2) เครื่องคอมพิวเตอร์ (อุปกรณ์และส่วนประกอบ) 3) แผงวงจรไฟฟ้า 4) รถยนต์ (อุปกรณ์และส่วนประกอบ) และ 5) ผลิตภัณฑ์ยาง โดยสินค้าที่ไทยนําเข้าจากสหพันธ์ฯ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 2) เคมีภัณฑ์ 3) เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ 4) ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยางยนต์ และ 5) ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม

.

อย่างไรก็ดี ถึงแม้มูลค่าการส่งออกสินค้าจากไทยไปยังสหพันธ์ฯ จะลดลง แต่จากการที่รัฐบาลสหพันธ์ฯ ได้มีมาตรการในการเยียวยาประชาชน และกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก ประกอบกับการที่ GDP ของสหพันธ์ฯ ในปี 2563 นั้นดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ จึงคาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวกลับมาอีกครั้งหากสถานการณ์ COVID-19 ในสหพันธ์ฯ ดีขึ้น มีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างทั่วถึง ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถกลับมาส่งออกสินค้าไปยังสหพันธ์ฯ ได้ดีอีกครั้ง รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวเยอรมันที่เข้ามาในประเทศไทยนั้นจะฟื้นตัวเช่นเดียวกัน

.

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน

Previous Post

สภาพเศรษฐกิจมาเลเซียปี 2563

Next Post

ผลกระทบจากปัจจัย Brexit ต่อภาคธุรกิจในสหราชอาณาจักร

Tanakorn

Tanakorn

Glob Thailand Administrator

Next Post

ผลกระทบจากปัจจัย Brexit ต่อภาคธุรกิจในสหราชอาณาจักร

Post Views: 1,666

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

กานซูดึงเยาวชนมาเก๊าเสริมสัมพันธ์ เชิญชวนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น

กานซูดึงเยาวชนมาเก๊าเสริมสัมพันธ์ เชิญชวนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น

17/06/2025
สิงคโปร์พัฒนานวัตกรรมปลูกข้าวยั่งยืน ลดก๊าซมีเทน เพิ่มผลผลิต

สิงคโปร์พัฒนานวัตกรรมปลูกข้าวยั่งยืน ลดก๊าซมีเทน เพิ่มผลผลิต

15/06/2025
จีนเปิดเที่ยวบินคาร์โก้เชื่อมกุ้ยหยาง–กรุงเทพฯ ส่งเสริมโลจิสติกส์ข้ามพรมแดน

จีนเปิดเที่ยวบินคาร์โก้เชื่อมกุ้ยหยาง–กรุงเทพฯ ส่งเสริมโลจิสติกส์ข้ามพรมแดน

14/06/2025
Active packaging: โซลูชันลดสารปรอทในปลาทูน่ากระป๋อง

Active packaging: โซลูชันลดสารปรอทในปลาทูน่ากระป๋อง

12/06/2025
เกาหลีใต้เปิดตัวแผนสร้างเรือบรรทุกไฮโดรเจนเหลวใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2570

เกาหลีใต้เปิดตัวแผนสร้างเรือบรรทุกไฮโดรเจนเหลวใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2570

12/06/2025
กัมพูชาจัดพิธีต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบินเอมิเรตส์ที่เมืองเสียมราฐ

กัมพูชาจัดพิธีต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบินเอมิเรตส์ที่เมืองเสียมราฐ

12/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X