นาง Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของ EU ในการควบคุมแพลตฟอร์มดิจิทัลให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย ปกป้องเสรีภาพการแสดงออก และส่งเสริมธุรกิจดิจิทัลตามแนวคิด “อะไรที่ผิดกฎหมายในโลกออฟไลน์ก็ต้องผิดกฎหมายในโลกออนไลน์เช่นกัน” ซึ่งกฎหมายการให้บริการดิจิทัล (Digital Services Act: DSA) ควบคู่กับกฎหมายการตลาดดิจิทัล (Digital Market Act: DMA) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะมนตรียุโรปและสภายุโรปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของ EU ในฐานะผู้นําด้านกฎหมายดิจิทัลต่อประเทศสมาชิก EU ภาคธุรกิจในยุโรป และประเทศคู่ค้าของ EU
โดยเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2565 คณะมนตรียุโรปและสภายุโรปเห็นชอบร่างกฎหมายการให้บริการดิจิทัล เพื่อควบคุมธุรกิจบนแพลตฟอร์มดิจิทัลและสื่อโซเชียล อาทิ Meta/Facebook และ Twitter ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้ง แพลตฟอร์มซื้อขายของออนไลน์ โปรแกรมค้นหา (search engines) อาทิ Google และบริการออนไลน์อื่น ๆ ใน EU ให้ปลอดภัย มีความโปร่งใส เป็นธรรม และสามารถตรวจสอบได้ มุ่งจัดการกับเนื้อหาผิดกฎหมายและเนื้อหาที่เป็นอันตราย โดยกําหนดให้มีการปรับปรุงแนวปฏิบัติการตรวจสอบ ข้อมูลบนเว็บไซต์ (moderation practices) ของดิจิทัลแพลตฟอร์มให้เข้มงวดขึ้น
กฎหมายการให้บริการดิจิทัล กําหนดให้ผู้ให้บริการทางดิจิทัลต้องตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ของตนไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย (การทำ due diligence) รวมทั้งต้องมีวิธีการลบคอนเทนต์ที่ผิดกฎหมายให้เร็วขึ้น รวมถึงมี มาตรการปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ใช้บริการออนไลน์อย่างครอบคลุม ทั้งนี้ บริษัทที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายการให้บริการดิจิทัล ได้แก่
(1) ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย เช่น ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และผู้รับจดทะเบียนชื่อโดเมนเว็บไซต์
(2) ผู้ให้บริการโฮสติ้ง เช่น ผู้ให้บริการคลาวด์ และบริการเว็บโฮสติ้ง
(3) เว็บไซต์โปรแกรมค้นขนาดใหญ่ (very large online Search engines (VLOSEs)
(4) แพลตฟอร์มซื้อขายของออนไลน์ เช่น ตลาดออนไลน์ ร้านค้าจําหน่ายแอปพลิเคชัน (app stores) แพลตฟอร์มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (collaborative economy platform) อย่าง Uber และ Airbnb รวมถึงแพลตฟอร์มสื่อโซเชียล
(5) แพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่ (very large online platforms: VLOPs)
ทั้งนี้ บริษัทแพลตฟอร์มขนาดย่อยและขนาดเล็กที่มีผู้ใช้บริการน้อยกว่า 45 ล้านคน/เดือน จะได้รับการยกเว้นจากกฎหมายดิจิทัลใหม่นี้ เพื่อไม่สร้างภาระแก่บริษัทขนาดย่อยและเล็กมากเกินไป และเปิดโอกาสให้บริษัทเหล่านี้สามารถเติบโตขึ้นมาแข่งขันกับบริษัทใหญ่ ๆ ได้
กฎหมายการให้บริการดิจิทัล จะเริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเร็วในวันที่ 1 ม.ค. 67 หรือ 15 เดือนหลังการประกาศกฎหมาย โดยมีข้อยกเว้นให้บังคับใช้ต่อบริษัทแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ (VLOPs) และโปรแกรมค้นหาขนาดใหญ่ (VLOSEs) 4 เดือนหลังการประกาศกฎหมาย ในกรณีมีการละเมิดกฎหมาย ค่าปรับอาจสูงถึงร้อยละ 6 ของรายได้รวมในทุกประเทศของบริษัทดังกล่าว โดยแพลตฟอร์มที่ EU จับตาดูอย่างใกล้ชิดมีประมาณ 30 แพลตฟอร์ม รวมถึง Facebook Google Twitter และ Amazon