ดูไบออกวีซ่าให้คนต่างชาติมีถิ่นพํานักระยะยาวด้านวัฒนธรรมขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก โดยมีเป้าหมายให้ดูไบดึงดูดศิลปิน นักเขียนวรรณกรรม และนวัตกรต่าง ๆ มาใช้ชีวิตในดูไบ เพื่อให้ดูไบเป็น incubator ของผู้มีความสามารถและทักษะสูงในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ โดย Sheikh Mohammad Bin Rashid Al Maktoum รองประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี ของยูเออีและเจ้าผู้ครองรัฐดูไบ ได้เปิดตัววีซ่าระยะยาวด้าน วัฒนธรรมนี้ในช่วงการเป็นประธานการประชุม Dubai Culture and Art Authority เมื่อต้นเดือน ต.ค. 2019 ซึ่งขณะนี้มีบริษัทต่าง ๆ ในดูไบกว่า 6,000 บริษัท ซึ่งทําธุรกิจด้านศิลปะและวัฒนธรรมต่าง ๆ ทั้งนี้ มี complex ด้านศิลปกรรมสร้างสรรค์กว่า 5 Complex มีพิพิธภัณฑ์ในดูไบกว่า 20 แห่ง ซึ่งดูไบต้องการวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ ที่จะบูรณาการสร้างการประสานงานให้มากขึ้น เพื่อทําได้ดูไบเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของอาหรับในระดับโลก
[su_spacer]
นอกจากนี้ ดูไบได้จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ถึง 550 รายการต่อปี โดยความริเริ่มที่สําคัญ ได้แก่
(1) การจัดตั้ง Free Zone for Creativity ซึ่งจะจัดตั้งขึ้นที่ AI Qouz เพื่อดึงดูดศิลปิน นักเขียน และนักประดิษฐ์ นวัตกรรมต่าง ๆ ที่มีความสร้างสรรค์และทักษะสูงมาทํางานที่นี่
(2) การจัด Dubai International Literature Season ซึ่งจะเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคฯ ในแต่ละปี โดยจะมีศิลปินเข้าร่วมกว่า 1,000 คนจะมีการ แสดงวัฒนธรรมและวรรณกรรมและจะเชิญนักเขียนระดับสุดยอดของอาหรับและนานาชาติกว่า 100 คน มา เข้าร่วมด้วย รวมทั้งสํานักพิมพ์อาหรับและนานาชาติกว่า 100 บริษัทมาร่วมงาน
(3) การจัด School of Life ขึ้น 7 แห่ง ซึ่งจะแปรเปลี่ยนหอสมุดสาธารณะที่สําคัญต่างๆ ให้เป็นศูนย์แสดงทางวัฒนธรรมแบบบูรณาการ ภายใต้สโลแกน “School of Life” เพื่อให้คนรุ่นใหม่มีทักษะด้านศิลปกรรม นวัตกรรมและมีความคิด สร้างสรรค์
(4) การจัด Land Art ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มที่มีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างเป้าหมายปลายทางด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวระดับโลกขึ้นที่ดูไบซึ่งจะเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีการก่อตั้งยูเออีขึ้น ด้วยและจะจัดทําสารคดี Expo 2020 Dubai ซึ่งถือเป็นงานระดับนานาชาติครั้งยิ่งใหญ่ที่มีเมืองในอาหรับเป็น เจ้าภาพเป็นครั้งแรกด้วย
(5) การจัด Dubai International Alumni Exhibition เป็นการจัดนิทรรศการครั้งที่ ใหญ่ที่สุดในการจัด World Government Summit-Expo 2020 ซึ่งคาดว่างานนี้จะมีผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน และมีโครงการ 150 โครงการจากมหาวิทยาลัย 208 แห่งทั่วโลกด้วย
(6) การจัด Marmoum Film Festival จะเป็นการจัดเทศกาลภาพยนตร์ในพื้นที่เปิด จัดขึ้นที่ Al Marmoum ภายใต้ความร่วมมือกับค่ายบริษัท ภาพยนตร์ต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวดูไบ
(7) การจัด International Artistic Landmarks ซึ่งจะเป็น คณะกรรมการซึ่งจะพิจารณาอาคารที่เป็นผลงานทางสถาปัตยกรรมชั้นเยี่ยมในดูไบ
(8) Architectural Identity ซึ่งแนวคิดริเริ่มนี้เป็นไปเพื่อให้มีการออกแบบอาคารที่ยึดถืออัตลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่ชัดเจน โดดเด่น ซึ่งจะใช้ในอาคารของรัฐและภาคเอกชนได้
(9) การจัด Hata Cultural Carnival ซึ่งจะเป็นการจัด คาร์นิวาลประจําปีในการรักษามรดกทางวัฒนธรรมของยูเออีให้ยังคงอยู่ต่อไปและกระตุ้นการท่องเที่ยวและ เศรษฐกิจโลกในเขต Hatta
(10) การจัด Art for Good ซึ่งเป็นการจัดงานศิลปะตลอดปี ซึ่งภายในงานจะมีการ จัดศิลปะนานาชาติเป็นเวลา 1 สัปดาห์ขึ้นประจําปีในดูไบ โดยสนับสนุนจากผู้บริจาครายสําคัญ โดยมี เป้าหมายเพื่อมนุษยธรรม
(11) การจัด Dubai Gold Group ซึ่งจะเป็นการแข่งขันในการออกแบบเครื่อง ประดับทอง เพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ในหมู่ผู้ผลิตทองคํารูปพรรณชาวยูเออี และสนับสนุนภาคการค้า ทองของดูไบ โดยมีเป้าหมายให้ดูไบมีตําแหน่งสําคัญในการเป็นศูนย์กลางการค้าทองของโลก
(12) การจัด Explore Dubais Cultural Treasure with Uber ซึ่งจะร่วมกับ Uber ในการทําให้นักท่องเที่ยวเข้าถึง จุดหมายปลายทางวัฒนธรรมด้านการท่องเที่ยวของดูไบได้ดีขึ้น และให้ประสบการณ์ทางวัฒนธรรมแบบ interactive
(13) การจัด Dubai Art Collections เพื่อเป้าหมายในการซื้อขายภาพ ศิลปกรรม รูปปั้นและวัตถุ ทางศิลปะต่างๆ ในดูไบ
(14) การจัด Dubai Special Collection’s Season เพื่อกระตุ้นให้เจ้าของและ นักสะสมโบราณวัตถุ และงานศิลปะ นําสมบัติล้ําค่าเหล้านั้นมาจัดแสดงในดูไบ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ใน ด้านศิลปกรรมในหมู่ประชาชน
(15) การจัด Zabeel High School ซึ่งจะมีการบูรณะอาคารเรียนและมีห้อง เอนกประสงค์ต่างๆ ในการจัดงานศิลปะและนิทรรศการต่างๆ
(16) การจัด Dubai Festival for Cultures and Peoples ซึ่งจะเป็นการจัดงานต่างๆ ในการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมในดูไบของชุมชนต่างๆ ซึ่งจะแสดงถึง ขนบธรรมเนียม ประเพณี ผลิตภัณฑ์อาหารของชุมชนต่างๆ เครื่องแต่งกายท้องถิ่น คติชาวบ้าน ผลิตภัณฑ์ หัตถกรรมต่างๆ เป็นต้น
[su_spacer]