ดูไบกําลังพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวอย่างเร่งรีบ ในขณะที่เศรษฐกิจโลกก็กําลังมุ่งผลักดันให้การผลิตและพัฒนาอุตสาหกรรมทั่วโลก ให้มุ่งเน้นการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในส่วนของดูไบที่จะผลิตไฟฟ้าจากพลังงาน แสงอาทิตย์ และการใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ (photovoltaic – PV) ดูไบกําลังออกข้อกําหนดให้ใช้แผง PV ในพื้นที่ ต่างๆ เพิ่มเติม เช่น ตามโครงสร้างพื้นฐานของรัฐที่ประชาชนใช้งาน การใช้ PV ในบ้านและหน้าต่างสำนักงาน ต่างๆ เพื่อเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นกระแสไฟฟ้าเพื่อให้อาคารต่างๆ ใช้พลังงานสะอาดมากที่สุด และ เป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ขณะนี้ ดูไบ/ยูเออี กําลังวิจัยและพัฒนา (R&D) ด้านนี้ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพให้มากที่สุดในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์อย่างยั่งยืนในดูไบและรัฐต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องระบบแบตเตอรี่เก็บไฟฟ้า การใช้หุ่นยนต์ในการทําความสะอาดแผง PV และการใช้ระบบติดตามการหมุนของดวงอาทิตย์ ที่จะปรับมุมแผง PV เพื่อให้ผลิตพลังงานไฟฟ้าได้สูงสุดในแต่ละช่วงเวลาด้วย ทั้งนี้ธุรกิจการผลิตแผ่น PV และการใช้งานในเรื่องนี้กําลังสร้างงานใหม่ในยูเออีเพิ่มขึ้นด้วย โดยในส่วนของหน่วยงานของรัฐ และบริษัทต่างๆ กําลังมุ่งไปสู่การใช้เทคโนโลยีการใช้พลังงานสะอาดในยูเออีอย่างแท้จริง
[su_spacer]
ทั้งนี้ดูไบกําลังสร้าง Mohammad Bin Rashid AI Maktoum Solar Park ซึ่งจะเป็นโครงการในพื้นที่ เดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถใช้พลังงานหมุนเวียน/แสงอาทิตย์ ผลิตไฟฟ้าได้ถึง 5,000 เมกะวัตต์ (MW) ภายในปี ค.ศ. 2030 ด้วยเงินลงทุน 50,000 ล้านดีแรห์ม ซึ่งเป็นรูปแบบโครงการของผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (Independent power producer (IPP) โดยวารสาร Nikkei Asian Review กล่าวว่า โครงการผลิตพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ ของยูเออีทําให้ต้นทุนการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ของโลกลดลงซึ่งโครงการนี้จะเป็นต้นแบบให้ทั่วโลก หันมานิยมการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแผง PV มากขึ้น ซึ่งยูเออีมีพันธกรณีที่จะต้องทําให้ Solar Park แห่งนี้ สําเร็จสมบูรณ์โดยเร็ว โดยใช้เทคโนโลยีที่ใหม่ที่สุดด้วย ให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของ H.H. Shaikh Mohammad Bin Rashid Al Maktoum รองประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรีและเจ้าผู้ครองรัฐดูไบที่จะนําและพัฒนาดูไบ/ยูเออี ไปสู่เศรษฐกิจสีเขียวโดยเร็วและเป็นตัวอย่างให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก
[su_spacer]
สําหรับ Solar Park ของยูเออี แบ่งเป็น 4 เฟส เฟสแรกผลิตไฟฟ้าจาก PV ขนาด 13 MW ซึ่งเริ่ม ผลิตไฟฟ้าอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 2013 ส่วนเฟสที่ 2 ใช้แผง PV ผลิตไฟฟ้า 200 MW เริ่มผลิตไฟฟ้าได้ตั้งแต่ มีนาคม ค.ศ. 2017 สําหรับเฟสที่ 3 ผลิตไฟฟ้าจาก PV ขนาด 800 MW จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ในปี 2020 และเฟสที่ 4 เป็นฟาร์มผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์แบบ Concentrated Solar Power (CSP) ในพื้นที่เดียวที่ใหญ่ ที่สุดในโลกในรูปแบบ IPP ซึ่งจะใช้เงินลงทุน 14,780 ล้านดีแรห์ม ผลิตไฟฟ้า 950 MW โดย 600 MW เป็นการ ผลิตไฟฟ้าแบบ CSP จากจานโค้ง (parabolic) และ 100 MW จะผลิตจากหอคอยพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Tower) และอีก 250 MW จะผลิตจากแผง PV ซึ่งโครงการนี้จะมีหอคอยพลังงานแสงอาทิตย์ที่สูงที่สุดในโลก โดย มีความสูงถึง 260 เมตร และสามารถเก็บพลังงานความร้อนไฟฟ้าได้นานที่สุดถึง 15 ชั่วโมง โดยผลิตไฟฟ้าได้ ตลอดเวลาด้วย ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก Dubai Supreme Council of Energy เทศบาล นครดูไบ สํานักงานตํารวจดูไบ Mohammad Bin Rashid Housing Establishment และองค์การผลิตน้ําประปา และไฟฟ้าแห่งดูไบ (Dewa – Dubai Electric & Water Authority) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการดําเนินการตามกฏ บัตร 50 ปี ในการพัฒนาประเทศของ Shaikh Mohammad
[su_spacer]
ในอนาคต Dewa และดูไบกําลังพัฒนาแผนและโครงการที่จะทําให้บ้านทุกหลังของ 1 ใน 10 ของชาว ดูไบสามารถอยู่อาศัยโดยพึ่งพาตนเองได้ทั้งในด้านน้ําดื่ม/ใช้ อาหารและพลังงานซึ่งจะเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ในการใช้ ชีวิตของประชาชนใหม่ทั้งหมดและเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นด้วย โดยจะเป็นการสร้างสรรค์ภาคส่วนทาง เศรษฐกิจใหม่ๆ ซึ่งเน้นการพึ่งพาตนเองได้ทั้งด้านพลังงาน น้ําใช้และอาหาร โดยเฉพาะการติดตั้งแผงพลังงาน แสงอาทิตย์ในบ้านของครัวเรือนต่าง ๆ จะเป็นการปฏิบัติภายใต้ความริเริ่ม Shams Dubai Initiative ซึ่ง Dewa ได้ เปิดตัวโครงการ Shams Dubai เพื่อสนับสนุน ข้อริเริ่ม Smart Dubai เพื่อให้รัฐดูไบเป็นรัฐอัจฉริยะและเป็นเมือง ที่มีความเป็นอยู่สุขสบายที่สุด
[su_spacer]
Shams Dubai ได้ส่งเสริมให้เจ้าของอาคารทุกหลังติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตพลังงาน ไฟฟ้าและต่อเข้ากับสายส่งไฟฟ้าของ Dewa ซึ่งโครงการ Shams Dubai ประสบความสําเร็จเป็นอย่างดี โดย ปัจจุบันอาคาร 1,328 หลัง ได้ผลิตพลังงานจากแผง PV ต่อเข้ากับสายส่งไฟฟ้าของ Dewa นับเป็นพลังงาน 102.1 MW โดยนับจนถึง 21 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 ซึ่งนับเป็นการบรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนยุทธศาสตร์ Dubai Clean Energy ซึ่งภายในปี ค.ศ. 2050 ดูไบจะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดถึง 75% และดูไบมีเป้าหมายจะผลิตไฟฟ้าจาก พลังงานสะอาดและหมุนเวียนให้ได้ถึง 42,000 MW ในอนาคต ซึ่งจะเป็นการผลักดันดูไบไปสู่ศูนย์กลางระดับโลก ในการผลิตพลังงานสะอาดและเศรฐกิจสีเขียวและมีค่า Carbon footprint ที่ต่ําที่สุดในโลก ตามแผนแม่บทในการ พัฒนาดูไบยูเออีด้วย
[su_spacer]
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ