เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2562 เจ้าชายเฟรเดอริก มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์กเสด็จฯ ไปทรงเปิดโครงการ ฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดของเดนมาร์กที่มีชื่อว่า Horn Rev 3 โดยมีนาง Mette Frederiksen นรม. เดนมาร์ก และนาย Dan Jorgensen รมว. กระทรวงพลังงาน สาธารณูปโภคและภูมิอากาศ เข้าร่วมงาน
[su_spacer]
โครงการฟาร์มกังหันลม Horn Rev 3 ตั้งอยู่ในทะเลเหนือ ห่างจากชายฝั่งตะวันตกของเมือง Esbierg บนเกาะ Jutland ของเดนมาร์กไป 25 – 50 กิโลเมตร มีจำนวนกังหันลมทั้งสิ้น 49 เครื่อง ซึ่งกังหันลมรวมฐานมีน้ำหนักประมาณ 1,500 ตัน/เครื่อง คาดว่าโครงการดังกล่าวจะผลิตกระแสไฟฟ้าได้ปีละ 1,700 กิกะวัตต์ (GWh) หรือมากพอสำหรับ 425,000 ครัวเรือน และจะเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมขึ้นอีกร้อยละ 32 (ข้อมูลในปี 2561 สัดส่วนการผลิต ไฟฟ้าจากพลังงานลมอยู่ที่ร้อยละ 40.7 ) นอกจากนี้ ฟาร์มดังกล่าวยังสามารถผลิตไฟฟ้าส่งออกต่อไปยังหลายประเทศ ได้แก่ เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สวีเดน และนอร์เวย์ โดยส่งกระแสไฟฟ้าผ่านไปยังโรงไฟฟ้าที่เมือง Endrup ก่อนส่งออกจากเดนมาร์ก ไปยังประเทศปลายทาง
[su_spacer]
บริษัท Vattenfall ของสวีเดนได้รับสิทธิ์ในการสร้างฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งในปี 2554 ภายหลัง จากการยื่นประมูลราคาที่ต่ำจนเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับโครงการก่อนหน้านี้ โดยนาย Magnus Hat CEO ของบริษัทฯ กล่าวว่า Horns Rev 3 เป็นฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในแถบสแกนดิเนเวียและแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของเดนมาร์กไปสู่ระบบพลังงานหมุนเวียน
[su_spacer]
รัฐสภาเดนมาร์กได้ให้ความเห็นชอบโครงการ Horn Rev 3 ในปี 2555 โดยเห็นว่าโครงการดังกล่าวจะมีบทบาทสำคัญทำให้เดนมาร์กบรรลุเป้าหมายที่กำหนดว่าภายในปี ค.ศ. 2020 ร้อยละ 50 ของการผลิตไฟฟ้าในเดนมาร์ก จะต้องมาจากพลังงานลม ทั้งนี้ นาย Jorgensen รมว. กระทรวงพลังงานฯ กล่าวว่า โครงการ Horns Rev 3 ช่วยทำให้มั่นใจว่าเดนมาร์กจะสามารถยุติการใช้พลังงานฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมันและก๊าซ และบรรลุเป้าหมายของ รบ. ที่ได้ตั้งไว้ว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 70 ภายในปี ค.ศ. 2030
[su_spacer]
โครงการ Horn Rev 3 จะได้รับการบำรุงรักษาจากบริษัท Hvide Sande Havn ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะมีการจ้างงานเพิ่มอีกประมาณ 25 – 30 อัตรา ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการผลิตกังหันลมมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอัตราการเติบโตการส่งออกและการจ้างงานของเดนมาร์ก โดยในปี ค.ศ. 2500 การเปลี่ยนแปลงสีเขียว (Green Transition) ของเดนมาร์กทำให้การส่งออกเทคโนโลยีและการบริการด้านพลังงานมีมูลค่ารวมถึง 85 พันล้านโครนเดนมาร์ก (หรือประมาณ 382.5 พันล้านบาท) และพลังงานสีเขียวเป็นนโยบายสำคัญของสหรัฐฯ และเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดใหม่สำหรับการส่งออกด้านดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลในทางบวกต่อการจ้างงานและการเติบโตที่ยั่งยืนของเศรษฐกิจเดนมาร์กต่อไป
[su_spacer]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน