Tuesday, June 10, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

การค้าไทย – เดนมาร์ก ปี 2563 หดตัวกว่า 18% หวังแนวโน้มปี 2564 ช่วยฟื้นเศรษฐกิจสองประเทศหลัง COVID-19

14/01/2021
in ทันโลก, ยุโรป
0
6
SHARES
198
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

เดนมาร์กเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 โดย GDP ในช่วง 2 ไตรมาสของปี 2563 (quarter-to-quarter) หดตัวลงร้อยละ 1.6 และร้อยละ 7.0 ตามลําดับ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั่วโลกและมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลในช่วงดังกล่าว อย่างไรก็ดี เมื่อคลายมาตรการล็อกดาวน์และกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับสู่สภาวะเกือบปกติทําให้ GDP เดนมาร์กในไตรมาสที่ 3 ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 5.2 โดยมีการบริโภคภาคเอกชนและการส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งการบริโภคขยายตัวในภาคที่ได้รับผลกระทบหนักจากมาตรการล็อกดาวน์ เช่น การค้าปลีกเครื่องนุ่งห่มและร้านอาหาร ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า GDP เดนมาร์กในปี 2563 จะหดตัวลงร้อยละ 3.9 เมื่อเทียบกับปีก่อน (IMF คาดการณ์ว่า GDP ของ EU โดยรวมในปี 2563 จะติดลบ 7.6)

.

สภาวะเศรษฐกิจเดนมาร์กในปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็น “two-speed economy” เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของรัฐบาลทําให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายในบางภาคส่วนของ เศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาคบริการ เช่น การท่องเที่ยว ร้านอาหาร และกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ แต่เพิ่มการใช้จ่าย ในภาคส่วนอื่นแทน เช่น การค้าปลีก (เสื้อผ้า DIY การปรับปรุงที่พักอาศัย) โดยในเดือนกันยายน 2563 เกือบร้อยละ 50 ของภาคเศรษฐกิจมีรายได้เพิ่มขึ้นเทียบกับช่วงก่อนเกิดวิกฤต COVID-19 ในขณะที่อีกร้อยละ 40 มีรายได้ลดลง

.

การส่งออก ได้รับผลกระทบจากภาวะซบเซาของเศรษฐกิจทั่วโลกและในตลาดส่งออกหลักของเดนมาร์ก โดยการส่งออกภาคบริการได้รับผลกระทบมากที่สุด ลดลงร้อยละ 20 ในช่วงสิ้นสุดไตรมาส 3/2563 เทียบกับเมื่อสิ้นปี 2562 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากภาคการท่องเที่ยวและการบิน ส่วนการส่งออกสินค้าได้รับผลกระทบน้อยกว่า โดยมีมูลค่าลดลงร้อยละ 3 ในช่วงดังกล่าว ทั้งนี้ เดนมาร์กมีโครงสร้างสินค้าส่งออกที่เป็นสิ่งรองรับแรงปะทะ (buffer) ต่อความผันผวนของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากสินค้าส่งออกหลัก เช่น สินค้าเกษตร ยาและเวชภัณฑ์ และกังหันลม มีอุปสงค์ที่ไม่ผันผวนตามเศรษฐกิจโลกมากนัก และแม้ว่าอุตสาหกรรมขนมิ้งค์ของเดนมาร์กจะได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤต COVID-19 แต่คิดเป็นสัดส่วนเล็กน้อยของการส่งออกทั้งหมดจึงไม่มีผลกระทบมากในภาพรวม

.

สำหรับการจ้างงานกลับฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในช่วงฤดูร้อนหลังคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยในช่วงฤดูใบไม้ร่วงกลับสู่ 2 ใน 3 ของระดับการจ้างงานก่อนสถานการณ์ COVID-19 อัตราการว่างงานเดือนตุลาคม 2563 อยู่ที่ 131,200 คนหรือคิดเป็นร้อยละ 4.6 ทั้งนี้ วิกฤต COVID-19 ส่งผลต่อการจ้างงานในแต่ละภาคส่วนของเศรษฐกิจต่างกัน เช่น ภาคขนส่ง โรงแรม ร้านอาหารและกิจกรรมด้านวัฒนธรรมยังคงมีอัตราการจ้างงานต่ําอยู่ ในขณะที่การจ้าง งานในอุตสาหกรรมการผลิตได้รับผลกระทบอย่างค่อยเป็นค่อยไป และภาคการก่อสร้างมีการจ้างงานสูงกว่าช่วงก่อน สถานการณ์ COVID-19 อย่างไรก็ดี การจ้างงานที่ลดลงในภาพรวมชะลออัตราการเติบโตของค่าแรง ยกเว้นในภาคการ ก่อสร้างที่ค่าแรงมีอัตราการเติบโตสูงและมีแรงงานไม่เพียงพอ

.

ด้านอสังหาริมทรัพย์ มีการซื้อขายในตลาดอสังหาริมทรัพย์สูง และราคาพุ่งสูงขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3/2563 ร้อยละ 4.3 สําหรับบ้านเดี่ยว และร้อยละ 5.5 สําหรับห้องชุด เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเป็นเพราะครัวเรือนที่เป็น “typical home buyers” ยังคงมีความเชื่อมั่นต่อสถานะทางการเงินแม้ว่าจะเกิดวิกฤต COVID-19 เนื่องจากรายได้ของครัวเรือนได้รับการชดเชยจากรัฐบาลรวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยที่ลดลงเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2562 นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงทาง พฤติกรรมในช่วงสถานการณ์ COVID-19 มีผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นและกดดันให้ราคาในตลาดสูงขึ้น

.

และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core inflation ไม่รวมสินค้าหมวดอาหารสดและพลังงาน) ในปี 2563 อยู่ที่ร้อยละ 1.2 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของ EU (ร้อยละ 9.0) และ Euro Area (ร้อยละ 0.4) โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ ซึ่งธนาคารกลางเดนมาร์กคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะค่อย ๆ สูงขึ้นในช่วงหลายปีข้างหน้า แต่ยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของสินค้านําเข้าที่ต่ำและการเติบโตของค่าจ้างในระดับปานกลาง

.

ขณะที่ แนวโน้มเศรษฐกิจเดนมาร์กปี 2564 ธนาคารกลางเดนมาร์กคาดว่า GDP เดนมาร์กในปี 2564 และปี 2565 จะขยายตัวร้อยละ 2.9 และ 3.3 ตามลําดับ โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับสู่ระดับเดียวกับก่อนวิกฤต COVID-19 ภายในสิ้นปี 2564 และกลับสู่แนวโน้มการเติบโตเดิมเต็มศักยภาพภายในครึ่งปีแรกของปี 2565

.

ปัจจัยความเสี่ยงสําคัญที่สุดยังคงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งรวมถึงการฉีดวัคซีนได้อย่างทั่วถึงและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศซึ่งจะมีผลต่อภาคการส่งออกเดนมาร์ก นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ระหว่าง EU กับสหราชอาณาจักร และบรรยากาศการค้าระหว่างประเทศหลัง Brexit ที่อาจนําไปสู่ กระแส protectionism หรือการกีดกัดทางการค้าซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสําคัญสําหรับแนวโน้มเศรษฐกิจเดนมาร์กในปี 2564 ทั้งนี้ ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศจากประสบการณ์ช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาพบว่า เมื่อมีการคลายมาตรการล็อกดาวน์ กิจกรรมทางเศรษฐกิจสามารถกลับสู่ระดับเกือบปกติ ยกเว้นในบางภาคธุรกิจบริการ ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและโครงสร้างเศรษฐกิจและเครือข่ายความปลอดภัยทางสังคม (Social safety net) ที่เข้มแข็ง

.

นอกจากนี้ แผนความช่วยเหลือและเงินชดเชยผลกระทบจากมาตรการควบคุม COVID-19 ในปี 2563 และต่อเนื่องมาจนถึงต้นปี 2564 ทําให้รัฐบาลเดนมาร์กขาดดุลงบประมาณ ในปี 2563 ร้อยละ 3.4 ของ GDP และคาดว่าจะขาดดุลงบประมาณต่อไปอีกร้อยละ 2.0 ในปี 2564 และร้อยละ 1.9 ในปี 2565 ซึ่งอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาวต่อสถานะการคลัง และหนี้สาธารณะ รวมทั้งความจําเป็นในการอนาคตที่รัฐบาลจะต้องใช้นโยบายการคลังแบบหดตัวเพื่อปรับสมดุลทางการคลัง อย่างไรก็ดี เดนมาร์กยังมีระดับหนี้สาธารณะต่ำอยู่ และคาดว่ารัฐบาลจะใช้มาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ในระยะสั้นและรักษาวินัยด้านการคลังอย่างเคร่งครัดเมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง

.

สำหรับนโยบายด้านเศรษฐกิจที่สําคัญในปี 2564 คาดว่าในไตรมาสแรกจะยังคงมุ่งเน้นการให้ความ ช่วยเหลือและชดเชยภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักจากมาตรการล็อกดาวน์ ตั้งแต่ช่วงก่อนวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่ามาตรการล็อกดาวน์อย่างน้อยบางส่วนน่าจะยังคงอยู่ไปจนถึงช่วงเทศกาลอีสเตอร์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเดนมาร์กได้กล่าวในสุนทรพจน์โอกาสขึ้นปีใหม่ 2564 ว่าจะเป็นจุดเปลี่ยน (turning point) ของสถานการณ์ COVID-19 ในเดนมาร์ก หลังจากนั้น คาดว่าจะเห็นนโยบายและมาตรการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจริงจังมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลเดนมาร์กจะผลักดัน green agenda ไปพร้อมกับการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายตาม Climate Act รวมทั้งการสนับสนุนภาคเอกชนในการส่งออก green technology/green solutions ทั้งนี้ เมื่อกลางปี 2563 รัฐบาลเดนมาร์กได้กําหนดให้การส่งออกและการลงทุนจากต่างประเทศจะเป็นลำดับความสำคัญสัมบูรณ์ (absolute priority) ของกระทรวงการต่างประเทศเดนมาร์กในปี 2563 และ 2564

.

ทั้งนี้ การจัดอันดับเกี่ยวกับศักยภาพทางเศรษฐกิจของเดนมาร์กในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา ได้แก่

.

1. Ease of Doing Business 2020 ของ World Bank เดนมาร์กยังเป็นอันดับ 1 ในยุโรป โดยใน ภาพรวมเลื่อนลงจากอันดับ 3 เป็นอันดับ 4 (รองจากนิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และฮ่องกง)

.

2. IMD’s World Competitiveness Ranking 2020 เดนมาร์กขยับจากอันดับที่ 8 เป็นอันดับที่ 2 ในปี 2563 (รองจากสิงคโปร์) อันเป็นผลจากความเข้มแข็งของเศรษฐกิจ ตลาดแรงงาน และระบบสาธารณสุขและการศึกษา

.

3. Global Competitiveness Report Special Edition 2020: How Countries are Performing on the Road to Recovery ของ WEF เดนมาร์ก (ร่วมกับฟินแลนด์และสวีเดน) เป็นประเทศที่ได้คะแนนสูงในเกือบทั้ง 11 หมวดที่ WEF จัดให้เป็นความสำคัญ (priorities) สําหรับการฟื้นตัวหลังวิกฤต COVID-19 เช่น อันดับ 1 ด้านกฎหมาย แรงงาน และ social protection สําหรับเศรษฐกิจใหม่และความต้องการแรงงานแบบใหม่ อันดับ 2 ด้านโครงสร้างพื้นฐาน และนวัตกรรมสําหรับการดูแลเด็กและผู้สูงอายุ และด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (energy transition) และเพิ่มการเข้าถึงไฟฟ้าและ ICT อันดับ 3 ด้านหลักสูตรการศึกษาและการลงทุนในทักษะสําหรับอาชีพในอนาคต

.

4. Global Innovation Index 2020 ของ WIPO เดนมาร์กขยับขึ้นจากอันดับที่ 7 เป็นอันดับที่ 5 ของโลก โดยได้คะแนนสูงสุดอันดับ 1 ในตัวชี้วัดด้าน ICT use  e-Govemment และ Environmental performance

.

5. e-Government Development Index (EGDI) 2020 ของ UN เดนมาร์กได้อันดับ 1 ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2

.

6. Environmental Performance Index (EPI) 2020 ของมหาวิทยาลัย Yale และ Columbia เดนมาร์กเป็นอันดับ 1 ขยับขึ้นจากอันดับที่ 3 ใน EPI 2018 โดยได้คะแนนสูงในเกือบทุกหมวดที่มีการจัดอันดับ โดยเฉพาะนโยบายและความมุ่งมั่นของรัฐบาลต่อประเด็นเรื่อง climate change นอกจากนี้ เดนมาร์กเป็นอันดับ 2 (รองจากสวีเดน) ใน SDG Index 2020

.

ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับเดนมาร์ก ในปี 2563 ที่ผ่านมา การค้าระหว่างไทยกับเดนมาร์กระหว่างเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2563 หดตัวลงร้อยละ 18.62 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการนําเข้าหดตัวลงมากกว่าการส่งออก มูลค่าการค้าอยู่ที่ 695 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออก 321 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ลดลงร้อยละ 14) และนําเข้า 374 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ลดลงร้อยละ 22) ไทยเสียเปรียบดุลการค้ามูลค่า 53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกหลังจากมูลค่าการค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สินค้าส่งออกอันดับต้นยังคงเป็นสินค้าเดนมาร์กที่ผลิตในประเทศไทยและส่งกลับมาขายที่เดนมาร์ก อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ รองเท้าและชิ้นส่วน แผงสวิทซ์และแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ในขณะที่ สินค้านําเข้าจากเดนมาร์กที่มีมูลค่าสูงสุดยังคงประกอบด้วย สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมส่งออกหลังของเดนมาร์ก

.

ด้านการลงทุนระหว่างไทยกับเดนมาร์กในปี 2563 นั้นใน (1 มกราคม – 30 กันยายน 2563) มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนกับ BOI จาก เดนมาร์ก 1 โครงการ มูลค่า 708 ล้านบาท เป็นโครงการลงทุนใหม่ของบริษัท ดานอน สเปเชียลไลซ์ นิวทริชั่น (ประเทศไทย) จํากัด เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม UHT และนมจากพืช (Plant-based) ทั้งนี้ โครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากเดนมาร์ก มูลค่ารวมสูงเป็นลําดับที่ 13 จากคําขอรวมทั้งหมด หรือลําดับที่ 4 ของประเทศกลุ่มยุโรป

.

นอกจากนี้ ในปี 2563 มีบริษัทเดนมาร์กลงทุนใน EEC 2 บริษัท (เป็นการยื่นขอรับการ ส่งเสริมการลงทุนในปี 2563) มูลค่าการลงทุนรวม 685 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท เมาน์เทน ท็อป (ประเทศไทย) จํากัด ผู้ผลิต Aluminium Roll Cover สําหรับรถกระบะ โดยตั้งโรงงานผลิตในนิคมอุตสาหกรรมอมตะที่จังหวัดชลบุรี เพื่อป้อนให้แก่ automotive industry และบริษัท ลินัก เอแพค จํากัด ผู้ผลิต electric linear actuator Solutions สําหรับการใช้งานใน อุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่ healthcare ไปยังเกษตรกรรม ได้ซื้อพื้นที่ขนาดใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะเพื่อสร้างโรงงานผลิต

.

การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤต COVID-19 และมาตรการจํากัดการเดินทาง ของทั้งเดนมาร์กและไทย โดยระหว่างมกราคม – พฤศจิกายน 2563 มีนักท่องเที่ยวเดนมาร์กเดินทางมายังประเทศ จํานวน 66,740 คน ลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งจาก 143,247 คน ในช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลงร้อยละ 53.41) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวในช่วง ไตรมาสแรกก่อนทางการไทยเริ่มใช้มาตราการจํากัดการเดินทางเข้าประเทศ และการกักตัวในสถานที่กักตัวทางเลือก (Alternative State Quarantine – ASQ)

.

แนวโน้มในปี 2564 การค้าทั้งสองประเทศยังคงต้องเผชิญกับวิกฤต COVID-19 ต่อไปในปี 2564 อย่างน้อยในช่วงครึ่งแรกของปี ซึ่งจะส่งผลต่อกําลังซื้อของทั้งสองฝ่าย จึงคาดว่ามูลค่าการค้าจะยังคงติดลบอยู่แต่อาจไม่มากเท่ากับในปี 2563 เนื่องจากมีฐานมูลค่าการค้าที่ต่ำลง (low base efect) การลงทุน สภาวะเศรษฐกิจในเดนมาร์กและส่วน ใหญ่ในยุโรปคาดว่าจะฟื้นตัวสู่ระดับก่อนวิกฤต COVID-19 ในช่วงสิ้นปี 2564 ดังนั้นจึงอาจยังไม่เห็นการขยายการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่จากเดนมาร์กในประเทศไทยในช่วงปี 2564 แต่อาจเห็นการขยายการส่งออกของสินค้ากลุ่มใหม่ไปยังตลาดอาเซียนและไทยมากขึ้น ขณะที่การท่องเที่ยวของชาวเดนมาร์กกลุ่มหนึ่งที่มีกําลังซื้อสูงและไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากวิกฤต COVID-19 อาจจะยังคงประสงค์เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยอยู่ แต่จํานวนนักท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้มากเพียงใดขึ้นอยู่กับมาตรการจํากัดการเดินทางและข้อกําหนดการกักตัวของทางการไทยในปี 2564

.

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน

Previous Post

เซี่ยงไฮ้เปิดตัว “64 โครงการใหม่” มูลค่าลงทุนกว่า 2.7 แสนล้านหยวน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจตามยุทธศาสตร์ วงจรคู่และนโยบายการพัฒนา “ศูนย์กลาง 5 ด้าน”

Next Post

เซี่ยงไฮ้ต่อยอดการพัฒนา “เศรษฐกิจดิจิทัล”

Tanakorn

Tanakorn

Glob Thailand Administrator

Next Post

เซี่ยงไฮ้ต่อยอดการพัฒนา “เศรษฐกิจดิจิทัล”

Post Views: 817

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

Update! สถานการณ์เศรษฐกิจเขตบริหารพิเศษฮ่องกง

Update! สถานการณ์เศรษฐกิจเขตบริหารพิเศษฮ่องกง

09/06/2025
สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

07/06/2025
จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

06/06/2025
การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

05/06/2025
นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

05/06/2025
นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

05/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X