เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2563 เวลา 14.00 น. นรม. เดนมาร์ก พร้อมด้วย รัฐมาตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของเดนมาร์ก ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการผ่อนปรนมาตรการด้านพรมแดนของเดนมาร์กเพื่อการท่องเที่ยว สรุปได้ดังนี้
[su_spacer]
1.นอร์เวย์ เยอรมนี และไอซ์แลนด์ (ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. 2563 เป็นต้นไป) Inbound –ผู้มีถิ่นพํานักในนอร์เวย์ เยอรมนี และไอซ์แลนด์ สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเดนมาร์กได้ แต่ต้องแสดงหลักฐานการเข้าพักในเดนมาร์กอย่างน้อย 6 คืน (เช่น สัญญาเช่าบ้านพัก การสํารองโรงแรมที่พัก) นอกเขตกรุง โคเปนเฮเกน ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาท่องเที่ยวในกรุงโคเปนเฮเกนได้ แต่ไม่สามารถพักในเขตกรุงโคเปนเฮเกนได้ โดยตํารวจจะเป็นผู้ตรวจสอบเอกสาร/หลักฐานของนักท่องเที่ยวว่าตรงตามเงื่อนไขข้างต้นหรือไม่Outbound ยกเลิกคําแนะนําไม่ให้ชาวเดนมาร์กเดินทางไปยังนอร์เวย์ เยอรมนี และไอซ์แลนด์ โดยไม่มีเหตุจําเป็น แต่ให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินทางไปยังทั้งสามประเทศนี้ (เปลี่ยนจากสีส้มเป็นสีเหลือง) นอกจากนี้ คําแนะนําให้ กักตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วันหลังจากกลับจากต่างประเทศ จะไม่ใช้กับการเดินทางกลับจากนอร์เวย์ เยอรมนี และไอซ์แลนด์ หากผู้เดินทางพักในเขต non-urban ของประเทศดังกล่าวที่มีประชากรน้อยกว่า 750,000 คน โดยผู้เดินทางต้องปฏิบัติตาม คําแนะนําการปฏิบัติตนในช่วงการระบาดของ COVID-19 ของทางการเดนมาร์ก ทั้งนี้ หากสถานการณ์การระบาดในประเทศเหล่านี้พัฒนาไปในทางลบ รบ.เดนมาร์กสามารถกลับมาใช้ มาตรการจํากัดการเดินทางอีกครั้ง
[su_spacer]
2.สวีเดน และฟินแลนด์Inbound -รบ. เดนมาร์กอยู่ระหว่างการหารือกับทางการสวีเดนและฟินแลนด์ โดยในส่วนของสวีเดน มาตรการจํากัดจากเดินทางเข้าเดนมาร์กของผู้อาศัยในสวีเดนอาจถูกยกเลิกเฉพาะบางพื้นที่ หากสามารถหารูปแบบ ที่เหมาะสมได้ (regional solutions) โดยจะให้ความสําคัญเป็นพิเศษกับภูมิภาค presund (ประกอบด้วย Capital และ Zealand Regions ทางตะวันออกของเดนมาร์ก และ Skane ทางตะวันตกและใต้ของสวีเดน) Outbound – รบ.เดนมาร์กอยู่ระหว่างการหารือกับทางการของสวีเดนและฟินแลนด์ เพื่อเปิดให้ผู้พํานักในเดนมาร์กเดินทางไปยังสองประเทศนี้ได้ก่อนวันที่ 31 ส.ค. 2563 โดยอาจยกเลิกคําแนะนําการเดินทางที่ไม่จําเป็นไปยัง สวีเดนหากสามารถหารูปแบบที่เหมาะสมได้ให้ความสําคัญเป็นพิเศษกับภูมิภาค Oresund
[su_spacer]
3.ประเทศอื่น ๆ ยังคงแนะนําไม่ให้ชาวเดนมาร์กเดินทางไปยังประเทศอื่น ๆ หากไม่จําเป็น (สีส้ม) และแนะนําให้ผู้เดินทาง กลับจากประเทศเหล่านี้กักตัวเองเป็นเวลา 14 วันหลังจากเดินทางกลับมายังเดนมาร์ก ไปจนถึงวันที่ 31 ส.ค. 2563 ทั้งนี้ รบ.เดนมาร์ก จะทบทวนขอบเขตของWorthy purposeที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติในประเทศอื่นๆ เดินทางเข้าเดนมาร์ก ได้เป็น
[su_spacer]
4.การตรวจหาเชื้อCOVID-19 หลังการผ่อนปรนมาตรการด้านพรมแดน
[su_spacer]
- จะสนับสนุน (encourage) ให้ผู้เดินทางเข้ามายังเดนมาร์กรับการตรวจหาเชื้อที่พรมแดน นอกจากนี้ หน่วยตรวจหาเชื้อเคลื่อนที่จะเข้าไปยังแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ เพื่อให้พนักงานร้านค้า สวนสนุก และร้านอาหาร ฯลฯ สามารถเข้ารับการตรวจได้มากขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฝ้าระวังและค้นหาห่วงโซ่การติดเชื้อใหม่ (new infection chains)
- จะไม่บังคับให้นักท่องเที่ยวทุกคนต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ แต่เป็นการสุ่มตรวจบางวันและบางแห่ง (จุดผ่านพรมแดนและสถานที่ท่องเที่ยวสําคัญ) อย่างไรก็ดี ชาวต่างชาติที่มีอาการป่วยชัดเจน เช่น ไอแห้ง เป็นไข้ จะ ไม่ได้รับอนุญาตให้ผ่านพรมแดนเข้ามายังเดนมาร์กได้
- นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ตรวจพบเชื้อ COVID-19 จะต้องปฏิบัติตามคําแนะนําของ Danish Health Authority ในการแยกกักกันตัว และนักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับทราบคําแนะนําการปฏิบัติตนเกี่ยวกับ COVID-19 ของทางการเดนมาร์ก ซึ่งทางการเดนมาร์กเผยแพร่ทางเว็บไซต์ Coronasmitte.dk ภายหลังการแถลงข่าวของ นรม.
[su_spacer]
5.ท่าที่และเสียงสะท้อนจากภาคส่วนต่าง ๆ
[su_spacer]
- นายกเทศมนตรีเมือง Malmg ของสวีเดนแสดงความผิดหวังต่อการตัดสินใจของ รบ. เดนมาร์กและนอร์เวย์ในการสร้าง “travel bubble” ที่ไม่รวมสวีเดนอยู่ด้วย ในขณะที่สวีเดนกล่าวในรายการโทรทัศน์ของ สวีเดนว่าการไม่เปิดภูมิภาคนอร์ดิกทั้งหมดถือเป็นปัญหา โดยเห็นว่าทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์จากการยกเลิกมาตรการด้านพรมแดนระหว่างกันเพื่อกลับคืนสู่สภาวะปกติของความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศนอร์ดิก นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ทางตอนใต้ของสวีเดน “Sydsvenskan” เรียกร้องให้ รบ. สวีเดนเพิ่มการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ในภูมิภาคซึ่งจะช่วย “normalise” สถานการณ์ของผู้ที่ต้องเดินทางเข้ามาทํางานในกรุงโคเปนเฮเกนได้
- นายกเทศมนตรีกรุงโคเปนเฮเกนโพสต์ข้อความในเฟสบุคส่วนตัวว่ารู้สึกเสียใจต่อการตัดสินใจของ รบ. ส่วนเทศมนตรีด้านการจ้างงานของกรุงโคเปนเฮเกนระบุว่า มาตรการที่ รบ. เดนมาร์กที่ประกาศให้ชาวเยอรมัน นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ เดินทางมาท่องเที่ยวในเดนมาร์กได้แต่ต้องพักค้างคืนอย่างน้อย 6 คืนนอกเขตกรุงโคเปนเฮเกนเป็นเสมือน “Kick in the balls” นอกจากนี้ สมาคม/องค์กรด้านการท่องเที่ยว เช่น Visit Denmark ระบุว่า ตามสถิติเมื่อปี 2562 มีนักท่องเที่ยวจากสามประเทศนี้ เดินทางมาพักในกรุงโคเปนเฮเกนถึง 144,000 คน ซึ่งหมายถึงกรุงโคเปนเฮเกนอาจสูญเสียนักท่องเที่ยวกว่าแสนคนในช่วงฤดูร้อนนี้ จากมาตรการของ รบ. ส่วน Wonderful Copenhagen ประเมินว่า กรุงโคเปนเฮเกนอาจสูญเสียรายได้ถึง 1.3 พันล้านโครนเดนมาร์ก และกระทบต่อการจ้างงาน 1,400 ตําแหน่ง
- นรม.เดนมาร์กโพสต์ข้อความในเฟสบุคส่วนตัวเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เข้าใจว่าชาวเดนมาร์กร้อนใจ (impatient) ที่ยังไม่สามารถเดินทางและใช้ชีวิตได้ตามปกติ รวมทั้งความน่าหงุดหงิด (frustrating) ที่โรงแรมและร้านอาหารในกรุงโคเปนเฮเกนจะต้องสูญเสียนักท่องเที่ยวไป ในขณะที่เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก COVID-19 เดนมาร์กได้เริ่มเปิดสังคมและพรมแดนแล้ว แต่วิกฤต COVID-19 ยังไม่ได้จบลงและอาจกลับมาได้อีกครั้ง มีอีกหลายแห่งในยุโรปที่ยังคงมาตรการ lockdown บางอย่างไว้ เดนมาร์กอยู่ในสถานะที่ดีแต่ชาวเดนมาร์กยังคงต้องอดทนต่อไป
[su_spacer]