ปัจจุบัน ธุรกิจโรงแรมในเช็กกำลังเติบโตและมีการแข่งขันกันอย่างมาก โดยในกรุงปรากเมืองเดียวมีโรงแรมมากกว่า 900 แห่ง และมีอัตราการเข้าพัก (occupancy rate) ร้อยละ 78 อย่างไรก็ดี ราคาห้องพักต่อคือเฉลี่ยอยู่ที่ 65 ยูโร ซึ่งถือว่าต่ำมาก เนื่องจากในจำนวน 900 แห่งนั้น มีโรงแรมระดับห้าดาวและสี่ดาวไม่กี่แห่ง และมีโรงแรมในเครือ (chain hotels) เพียงร้อยละ 15 เท่านั้น[su_spacer size=”20″]
โดยทั่วประเทศเช็ก มีโรงแรมระดับห้าดาวเพียง 38 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงปรากและเมืองท่องเที่ยวสำคัญ เช่น เมือง Karlovy Vary และเมือง Cesky Krumlov และระดับสี่ดาว 200 แห่ง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับโรงแรมคือ ที่ตั้ง จึงเห็นได้ว่า โรงแรมที่เน้นนักท่องเที่ยวจะตั้งอยู่ใจกลางเมืองเป็นหลัก ขณะที่โรงแรมที่เน้นนักธุรกิจสามารถตั้งอยู่รอบนอกเมือง[su_spacer size=”20″]
ช่วงปี 2545 – 2550 ธุรกิจโรงแรมในเช็กเฟื่องฟูอย่างมาก แต่วิกฤตเศรษฐกิจยุโรปทำให้ถดถอย ซึ่งกลับมาฟื้นตัวเมื่อ 2556 ปัจจุบัน ธุรกิจโรงแรมในเช็กได้กลับมาขยายตัวอีกครั้ง โดยราคาซื้อขายโรงแรมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2559 ถือว่าเป็นปีที่ขึ้นไปถึงจุดสูงสุด มีโรงแรมเกิดขึ้นใหม่มากและมีผู้เข้าพักตลอดปี ขณะที่ปี 2560 ลดลง และคาดว่า ปี 2561 จะดีเทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี และคนเช็กเองก็เริ่มท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น เนื่องจากเช็กเป็นประเทศที่ปลอดภัยที่สุดอันดับหกของโลกตามการจัดอันดับ Global Peace Index ของสหรัฐฯ ขณะที่มีปัญหาการก่อการร้ายในเมืองต่าง ๆ ในยุโรปหลายแห่ง อาทิ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี และเบลเยี่ยม ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มั่นใจในความปลอดภัยและเปลี่ยนมาท่องเที่ยวที่เช็กมากขึ้นด้วย[su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้ ลักษณะการซื้อขายโรงแรมในเช็ก ส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อทรัพย์สินทั้งหมด (assets takeover) มากกว่าการขายหุ้นหรือขายบริษัท โดยเจ้าของ/ผู้ขายมีทั้งเจ้าของส่วนตัว และนักธุรกิจและบริษัทด้านโรงแรม ด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และด้านอื่น ๆ ที่เข้ามาซื้อเพื่อเกร็งกำไร โดยมีทั้งของเช็กและต่างชาติ ขณะที่ผู้ซื้อก็เป็นไปในลักษณะเดียวกัน โดยการซื้อขายและการเจรจาส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะ off-market คือ ไม่มีการประกาศให้ทราบโดยทั่วไป แต่ส่งต่อภายในแวดวงธุรกิจ ดังนั้น ผู้ซื้อขายมักเป็นนักลงทุน/บริษัทที่มีธุรกิจด้านโรงแรมอยู่แล้วมากที่สุด[su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก