Shanghai Daily มีการคาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดด้านการศึกษาของจีนในปี 2563 จะอยู่ที่ 10 ล้านล้านหยวน โดยจะมีบริษัทและผู้ประกอบการด้านการศึกษาเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทั้งนี้ การเชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยี และการศึกษาในจีน แบ่งออกได้ 3 ระยะ คือ (1) ในช่วงปี 2543 บริษัทต่าง ๆ ได้เริ่มอัพโหลดแบบเรียนออนไลน์เพื่อให้เข้าถึงนักเรียนจำนวนมาก (2) ภายหลังปี 2553 การถ่ายทอดสด และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือ เริ่มเข้ามามีบทบาทในการศึกษา อาทิ การเรียนผ่านโปรแกรมบนแอปพลิเคชั่น Wechat และ (3) ใช้ AI ในการสร้างรูปแบบ และเนื้อหาของการเรียนการสอน ซึ่ง AI ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการศึกษา โดยทำงานเป็น “super brain” ที่รวมมันสมองของเหล่าอาจารย์ชั้นนำเอาไว้ อีกทั้งสามารถเข้าใจอุปนิสัย และเข้าถึงปัญหาของผู้เรียนที่ไม่อาจมองเห็นด้วยตาได้อีกด้วย [su_spacer size=”20″]
ในปี 2560 การเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ระดับ K12 (อนุบาลถึงมัธยมศึกษา) ในจีนได้เติบโตอย่างรวดเร็ว มีการถ่ายทอดการสอนโดยอาจารย์จากหัวเมืองระดับ 1 ให้กับนักเรียนมัธยมในพื้นที่ชนบทได้รับชม ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมว่าบทบาทของเทคโนโลยีได้ช่วยยกระดับการศึกษา นอกจากนี้ ในปี 2561 กว่าครึ่งของธุรกิจ Startup ที่เกี่ยวข้องกับด้านภาษาได้ระดมเงินทุน ดึงดูดครูสอนพิเศษชาวต่างชาติมาสอนภาษาออนไลน์แบบตัวต่อตัว อย่างไรก็ดี ธุรกิจนี้ยังคงขาดแคลนครูที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจำนวนมาก สำหรับดำเนินการสอนลักษณะดังกล่าว [su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้ รายงานของบริษัทกองทุนความเสี่ยง BE Capital ระบุว่า ครอบครัวจีนใช้จ่ายเงินโดยเฉลี่ย 42,900 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับค่าศึกษาเล่าเรียนของบุตร ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งเพิ่มขึ้น 13 เท่า และคิดเป็นร้อยละ 30 ระหว่างปี 2528 – 2555 นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่าจีนจะมีบริษัทด้านการศึกษาที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กว่า 100 แห่งในปี 2568 [su_spacer size=”20″]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้