ตามที่นครเฉิงตูได้เริ่มต้นนโยบาย “ช็อปปิ้งปลอดภาษี” คืนกำไรให้แก่ชาวต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 โดยเป็นเมืองที่สามของจีนและเป็นเมืองแรกในภูมิภาคจีนตะวันตกที่ดำเนินนโยบายดังกล่าว ล่าสุด นครเฉิงตูมีจำนวนร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าปลอดภาษีเพิ่มขึ้น และได้พัฒนาระบบการยื่นขอรับคืนภาษีไปยังศูนย์บริการขอคืนภาษีที่ท่าอากาศยานนานาชาติทั่วจีนแล้ว[su_spacer size=”20″]
กรมภาษีอากรแห่งชาติประจำนครเฉิงตู เผยสถิติว่า ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 25 ธันวาคม 2560 มีร้านค้าจำหน่ายสินค้าปลอดภาษีเพิ่มขึ้น 4 แห่ง และมีการออกใบยื่นขอรับคืนภาษีจากการซื้อสินค้ามูลค่ากว่า 9.84 ล้านหยวน และนับตั้งแต่เริ่มนโยบาย “ช็อปปิ้งปลอดภาษี” ขณะนี้ นครเฉิงตูมีห้างสรรพสินค้าและร้านค้าสินค้าปลอดภาษีแก่ชาวต่างชาติรวมทั้งสิ้น 78 แห่ง (จากจำนวนเริ่มต้น 33 แห่ง) อาทิ ห้างสรรพสินค้า Chicony Square (群光广场) ห้างสรรพสินค้า Ito Yokado(伊藤洋华堂)และร้านขายสินค้าที่ระลึกตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ กระจายอยู่ทั่วนครเฉิงตู และมีการออกใบยื่นขอรับคืนภาษีจากการซื้อสินค้าซึ่งมีมูลค่ากว่า 19.73 ล้านหยวน[su_spacer size=”20″]
นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือน พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา นครเฉิงตูได้เปิดให้บริการระบบการยื่นขอรับคืนภาษีสินค้าเชื่อมโยงไปยังศูนย์บริการขอคืนภาษีที่ท่าอากาศยานนานาชาติทั่วจีนแล้ว กล่าวคือ เมื่อชาวต่างชาติซื้อสินค้าปลอดภาษีในจีนไม่ว่าจะในเมืองใด ก็สามารถที่จะยื่นเรื่องดำเนินการขอรับภาษีสินค้าคืนได้ที่ทุกศูนย์บริการขอคืนภาษีที่ท่าอากาศยานนานาชาติที่ชาวต่างชาติกำลังจะเดินทางออกจากจีน ซึ่งระบบการคืนภาษีดังกล่าว สร้างความสะดวกให้กับกลุ่มนักช็อปต่างชาติเป็นอย่างมาก[su_spacer size=”20″]
ผู้แทนของกรมภาษีอากรแห่งชาติประจำนครเฉิงตู กล่าวว่า “นครเฉิงตู คือสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ ซึ่งการเพิ่มขึ้นของจำนวนร้านค้าปลอดภาษี และการให้บริการระบบขอรับคืนภาษีสินค้าแบบครอบคลุมทั่วจีน จะช่วยส่งเสริมให้นครเฉิงตูมีขีดความสามารถในการแข่งขันภาคการท่องเที่ยวที่สูงขึ้น มีความทันสมัยและความเป็นสากลมากขึ้น และที่สำคัญนโยบาย “ช็อปปิ้งปลอดภาษี” จะช่วยกระตุ้นรายได้ให้กับระบบห่วงโซ่การท่องเที่ยว ทั้งการค้า การบริการและการสร้างงานอาชีพ โดยมิต้องพึ่งพาเพียงแค่ค่าบัตรผ่านประตูสถานที่ท่องเที่ยว”[su_spacer size=”20″]
ข้อมูลเพิ่มเติม “ชาวต่างชาติผู้มีสิทธิ์ได้รับภาษีคืนตามนโยบาย “ช็อปปิ้งปลอดภาษี” ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข ดังนี้ 1) เป็นชาวต่างชาติ รวมถึงชาวฮ่องกงและมาเก๊าที่พำนักอยู่ในประเทศจีนไม่เกิน 183 วัน 2) ซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีเกินกว่า 500 หยวนในร้านค้าแห่งเดียวกัน/ต่อหนึ่งใบเสร็จ/ภายในวันเดียวกัน 3) หลังจากซื้อสินค้า 90 วันหากยังไม่นำสินค้าออกจากประเทศจีนจะถูกตัดสิทธิ์ในการขอคืนภาษี 4) สินค้าที่นำมายื่นเรื่องขอคืนภาษีจะต้องเป็นสินค้าใหม่ที่ยังไม่ได้ใช้ 5) สินค้าที่ได้รับการคืนภาษี ชาวต่างชาติผู้เป็นเจ้าของจะต้องนำกลับประเทศด้วยตัวเอง”[su_spacer size=”20″]
อัตราภาษีที่ได้รับคืนคือ 11% โดยแบ่งเป็นการคืนภาษีให้กับชาวต่างชาติผู้ซื้อสินค้า 9% และอีก 2% จะเป็นค่าบริการในการยื่นเรื่อง สำหรับวิธีการคืนภาษีมี 2 แบบ คือ การจ่ายเป็นเงินสดและการโอนเข้าบัญชี ทั้งนี้ หากภาษีที่ได้รับคืนมีมูลค่าไม่เกิน 10,000 หยวน สามารถเลือกรับเป็นเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีก็ได้ แต่หากมีมูลค่าเกิน 10,000 หยวน รัฐบาลจะคืนให้โดยการโอนเข้าบัญชีเท่านั้น[su_spacer size=”20″]
สำหรับวิธีการขอคืนภาษีสินค้ามีขั้นตอนดังนี้ 1) เมื่อชาวต่างชาติซื้อสินค้าจากร้านค้าปลอดภาษีแล้ว ให้ขอใบเสร็จและแบบฟอร์มการคืนภาษีจากทางร้านค้านั้น ๆ 2) ยื่นเอกสารการขอคืนภาษีที่ด่านศุลกากรก่อนเพื่อรับการตรวจสอบ 3) นำเอกสารขอคืนภาษียื่นต่อศูนย์บริการขอคืนภาษีเพื่อรับภาษีสินค้าคืน[su_spacer size=”20″]