ภาพรวม YRD มีอัตราการขยายตัว GDP ที่ร้อยละ 5.0 – 6.2 โดย GDP ของเซี่ยงไฮ้ขยายตัวร้อยละ 5.0 / GDP เจียงซูขยายตัวร้อยละ 6.2 / GDP เจ้อเจียง ขยายตัวร้อยละ 6.1 และ GDP อานฮุยขยายตัวร้อยละ 5.2 ซึ่งทั้ง 4 พื้นที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสอดคล้องกับภาพรวมการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน โดยภาคอุตสาหกรรมถือเป็นกําลังขับเคลื่อนสําคัญในการพัฒนา YRD
อุตสาหกรรมยานยนต์ใน YRD ยังคงเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ของเซี่ยงไฮ้ เจียงซู เจ้อเจียง และอานฮุยเติบโตขึ้นจากช่วงไตรมาสแรกปี 2566 ร้อยละ 3.1 ร้อยละ 15.3 ร้อยละ 23.1 และร้อยละ 12.5 ตามลําดับ ทั้งนี้ ปริมาณการผลิตรถยนต์ของเขต YRD ในช่วงไตรมาสแรกปี 2567 ติด 10 อันดับแรกของจีน โดยปริมาณการผลิตรถยนต์ของเขต YRD คิดเป็นร้อยละ 25.2 ของปริมาณการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในจีน (6.63 ล้านคัน)
YRD มีการลงทุนในทรัพย์สินถาวรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละพื้นที่ยังคงมุ่งเน้นการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการผลิตเป็นสําคัญ โดยเซี่ยงไฮ้ เจียงซู เจ้อเจียง และอานฮุยมีการลงทุนในทรัพย์สินถาวรเพิ่มขึ้นจากช่วง ไตรมาสแรกปี 2566 ที่ร้อยละ 9.2 ร้อยละ 4.9 ร้อยละ 6.9 และร้อยละ 6.3 ตามลําดับ ซึ่งทั้ง 4 พื้นที่มีอัตราการขยายตัวของการลงทุนในทรัพย์สินถาวรสูงกว่าภาพรวมทั่วทั้งจีน (มูลค่าการลงทุนในทรัพย์สินถาวรของจีนขยายตัวร้อยละ 4.5) อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเผชิญกับความท้าทายที่สูง แต่การลงทุนพัฒนาภาคอสังหาริมทรัพย์ของ YRD ยังติดอันดับต้นของจีน
โดยมูลค่าการซื้อขายปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคของเจียงซูและเจ้อเจียง เพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสแรกปี 2566 ร้อยละ 6.0 และร้อยละ 5.9 ตามลําดับ ขณะที่อานฮุยมีมูลค่าการซื้อขายปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 และเซี่ยงไฮ้เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.1 เท่านั้น
อีกทั้ง คุณภาพชีวิตประชาชน YRD มีกําลังการบริโภคระดับสูง รายรับและรายจ่ายเฉลี่ยต่อประชากรของ YRD สูงเป็นอันดับแนวหน้าของจีน
เขต YRD นับว่าเป็นพื้นที่สําคัญในด้านการค้ากับต่างประเทศ โดยการค้าระหว่างประเทศของ YRD ในช่วงไตรมาสแรกปี 2567 อยู่ที่ 5.24 แสนล้าน USD (เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4) คิดเป็นร้อยละ 36.6 ของการค้าระหว่างประเทศของจีน (1.43 ล้านล้าน USD)
ซึ่ง YRD เป็นพื้นที่ที่นําเข้าสินค้าจากต่างประเทศมากที่สุดในจีนที่ 2.09 แสนล้าน USD (เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7) คิดเป็นร้อยละ 33.5 ของการนําเข้าของจีน (6.24 แสนล้าน USD) โดยนําเข้าจากอาเซียนมากที่สุด ตามด้วย EU และญี่ปุ่น
การค้าไทยกับ YRD ช่วงไตรมาสแรกปี 2567
การค้าไทย – YRD อยู่ที่ 1.16 หมื่นล้าน USD ลดลงร้อยละ 2.8 คิดเป็นร้อยละ 38.6 ของการค้า ไทย – จีน (3.01 หมื่นล้าน USD) โดยเจียงซูเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทย (4.44 พันล้าน USD เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.1) เจ้อเจียง เป็นคู่ค้าอันดับ 3 (3.84 พันล้าน USD ลดลงร้อยละ 4.9) เซี่ยงไฮ้เป็นคู่ค้าอันดับ 4 (2.66 พันล้าน USD ลดลงร้อยละ 14.9) และอานฮุยเป็นคู่ค้าอันดับ 8 (699.53 ล้าน USD เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.1)
โดย YRD นําเข้าสินค้าจากไทยมากที่สุดในจีน โดยมูลค่านําเข้าที่ 3.63 พันล้านหยวน (ลดลงร้อยละ 13.3) คิดเป็นร้อยละ 36.0 ของมูลค่าการนําเข้าจากไทยของจีน (1.01 หมื่นล้าน USD)
สินค้า 5 อันดับแรกที่ YRD นําเข้าจากไทย ยังคงเป็นกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ วงจรรวมที่ใช้ในทางอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติ โพลีเมอร์ของเอทีลินในลักษณะขั้นปฐม ยางสังเคราะห์ และเศษทองแดง
สินค้า 5 อันดับแรกที่ YRD ส่งออกไปไทย ได้แก่ วงจรรวมที่ใช้ในทางอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องโทรศัพท์เครือข่ายเซลลูลาร์หรือเครือข่ายไร้สายและอุปกรณ์ หม้อแปลงไฟฟ้าและตัวเหนี่ยวนํา ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ และอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์
ทางด้านการค้าอาเซียน – YRD ช่วงไตรมาสแรกปี 2567 อยู่ที่ 7.37 หมื่นล้าน USD ลดลง ร้อยละ 1.7 ซึ่งไทยยังคงเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของ YRD จาก 10 ประเทศอาเซียน รองจากเวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยมูลค่าการค้าไทย – YRD (1.16 หมื่นล้าน USD ลดลงร้อยละ 2.8) คิดเป็นร้อยละ 15.8 ของการค้าอาเซียน – YRD
ทั้งนี้ แต่ละพื้นที่ในเขต YRD ยังคงมีความแข็งแกร่งในด้านอุตสาหกรรมสมัยใหม่และยังคงมุ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดย (1) เซี่ยงไฮ้ เน้น 3 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ AI เซมิคอนดักเตอร์ และ ยาชีวภาพ (2) เจียงซู ยังคงเป็นฐานอุตสาหกรรมการผลิตชั้นนําของจีน และมีสัดส่วนอุตสาหกรรมการผลิตสมัยใหม่คิดเป็นร้อยละ 70 ของอุตสาหกรรมทั้งหมด (3) เจ้อเจียง มุ่งกระตุ้นการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง และอุตสาหกรรม Al (4) อานฮุย มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และเซมิคอนดักเตอร์
ข้อมูล : สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้
เรียบเรียง ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์