‘เทรนด์สุขภาพ’ เติบโตขึ้นอย่างชัดเจนในประเทศจีน โดย “เขตนำร่องการเปิดสู่ภายนอกด้านการแพทย์นานาชาติฝางเฉิงก่าง” (Fangchenggang International Medical Opening-up Pilot Zone/防城港国际医学开放试验区) ที่เมืองฝางเฉิงก่าง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์และสุขภาพ ซึ่งเป็นผลพวงความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ หรือ Shanghai Cooperation Organisation (SCO) ครั้งที่ 19 โดยรัฐบาลจีนมุ่งสนับสนุนให้เขตนำร่องฯ เป็นพื้นที่สาธิตความร่วมมือและนวัตกรรมทางการแพทย์ที่มุ่งสู่ประเทศสมาชิก SCO และประเทศสมาชิกอาเซียน เป็นพื้นที่คลัสเตอร์อุตสาหกรรมการแพทย์และเภสัชกรรมนานาชาติ เป็นแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และวัฒนธรรมทางการแพทย์นานาชาติ และเป็น Highland ใหม่ด้านการแพทย์นานาชาติ
อุตสาหกรรมเป้าหมาย 3 สาขา ประกอบด้วย (1) การเพาะและขยายพันธุ์สัตว์ทดลอง (2) การวิจัยและพัฒนายาระยะพรีคลินิก (pre-clinic) (3) การวิจัยและพัฒนาการแพทย์และยาแผนโบราณ และต่อยอดการพัฒนาในอุตสาหกรรม 3 สาขา ได้แก่ (3.1) อุปกรณ์การแพทย์และเวชภัณฑ์ (3.2) อาหารเพื่อสุขภาพ และ (3.3) การบริการด้านการแพทย์และสุขภาพ
โดยโครงการที่น่าสนใจ อาทิ ชุดตรวจคัดกรองมะเร็งและยารักษามะเร็งในระยะเริ่มต้น ตัวกลางชนิดใหม่ทางเภสัชกรรม (pharmaceutical intermediates) การแปรรูปเชิงลึกด้านอาหารเพื่อสุขภาพและวัตถุดิบตั้งต้นของผลิตภัณฑ์อาหารและยา สารโครงร่างของเซลล์ (cytoskeleton) กับศาสตร์การฟื้นฟูตับอ่อน การพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีออนไลน์สำหรับการบริการด้านการแพทย์แนวทางใหม่ (Digital Health) อย่างเช่น การแพทย์ทางไกล หรือ Telemedicine
“การใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบในท้องถิ่น” เป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนในเมืองฝางเฉิงก่าง ซึ่งมีรากฐานอุตสาหกรรมโลหะกลุ่มเหล็ก (ferrous Metal) และโลหะนอกกลุ่มเหล็ก (Nonferrous Metal) เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก ไทเทเนียม เซอร์โคเนียม ทองแดง อะลูมิเนียม และสังกะสี จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการใช้วัตถุดิบของกลุ่มผู้ผลิตวัสดุและอุปกรณ์การแพทย์ได้เป็นอย่างดี
ด้วยเหตุนี้ เขตนำร่องฯ กำลังเป็นจุดหมายใหม่ของผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์ที่กำลังเคลื่อนฐานอุตสาหกรรมออกจากภาคตะวันออกของประเทศจีน รวมถึงการจัดตั้งของกลุ่มพันธมิตรอุตสาหกรรมอุปกรณ์การแพทย์จีน-อาเซียน (中国—东盟医疗装备产业联盟) ในเดือนมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา
ปัจจุบัน เขตนำร่องแห่งนี้ยังเป็น “ฐานการวิจัยและพัฒนาเภสัชกรรมและพรีคลินิก (Pre-clinic)” สำหรับองค์กรผู้ให้บริการวิจัยทางคลินิก (Contract Research Organization – CRO) และองค์กรรับจ้างพัฒนาและผลิตยา (Contract Development and Manufacturing Organization – CDMO) ระดับชั้นนำ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการต่อยอดผลงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ อาทิ “ยาฉีด AHT-101 สำหรับมะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งตับอ่อน” นวัตกรรมด้านเภสัชศาสตร์ชีวภาพของบริษัท Innovos Biotech (是光科技) ที่ได้รับหนังสืออนุมัติการใช้ในทางคลินิกจากสำนักกำกับดูแลเภสัชภัณฑ์แห่งชาติจีน (National Medical Products Administration /国家药品监督管理局) แล้ว อีกทั้ง ยังเป็น “ฐานการแพทย์ดิจิทัล” (Digital Health) ที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับมาตรฐานและเสริมประสิทธิภาพการให้บริการทางการแพทย์รูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี 5G ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ฐานข้อมูลบนคลาวด์ (Cloud Database) บล็อกเชน (Blockchain) การแพทย์ทางไกล หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด และอินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่งในการแพทย์ (Internet of Medical Things – IoMT) อาทิ บริษัท Akang Health ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม/โซลูชันการให้บริการทางการแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ให้กับสถานพยาบาล
ทั้งนี้ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เขตนำร่องแห่งนี้สามารถดึงดูดโครงการลงทุน 66 โครงการ มูลค่าการลงทุนกว่า 50,000 ล้านหยวน มีบริษัทราว 30 รายเข้าจัดตั้งกิจการภายในนิคมอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตนำร่องดังกล่าวแล้ว อีกทั้ง ล่าสุด มีการลงนามสัญญาการลงทุน 8 โครงการ รวมมูลค่าการลงทุนประมาณ 4,800 ล้านหยวน และข้อมูล ณ มิถุนายน 2566 เมืองฝางเฉิงก่างมีบริษัทอุปกรณ์การแพทย์ที่จดทะเบียนแล้ว 73 ราย และตั้งเป้าหมายว่า ภายใน 2 ปีนี้ จะดึงดูดการลงทุนจากบริษัทอุปกรณ์การแพทย์รายใหม่อย่างน้อย 50 ราย สร้างมูลค่าการผลิตมากกว่า 10,000 ล้านหยวน
ที่สำคัญ บริษัท Akang Health กำลังแสวงหาช่องทางในการใช้ประโยชน์จากอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน (Cross-border e-Commerce หรือ CBEC) ในการซื้อขายยาสามัญ (Generic Drug) ที่มีข้อจำกัดในการนำเข้า-ส่งออกที่เขตนำร่องฯ ของเมืองฝางเฉิงก่าง
นับว่าเขตนำร่องแห่งนี้เป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจที่ภาคธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ รวมถึงสตาร์ทอัปด้านเทคโนโลยีของไทยสามารถแสวงหาช่องทางการพัฒนาความร่วมมือด้านเทคโนโลยี ด้านการวิจัยทางการแพทย์และเภสัชกรรม รวมถึงด้านการค้าการลงทุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสาขาที่ประเทศไทยมีความโดดเด่น อย่างเช่น “สมุนไพรไทยและอาหารเพื่อสุขภาพ” รวมถึงแพทย์ทางเลือก (ศาสตร์การนวดแผนไทย การนวดประคบ) ซึ่งเป็นที่ยอมรับในสายตาผู้บริโภคชาวจีน ตอบโจทย์กระแสรักสุขภาพและสังคมสูงวัยของจีน อาศัยเขตนำร่องฯ เป็น “ก้าวแรก” ของการลุยตลาดจีน
ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์
ข้อมูล : สถานกงสุล ใหญ่ ณ นครหนานหนิง
จัดทำโดย :
(1) นางสาวฉิน อวี้อิ๋ง ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
(2) นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
ภาพประกอบ www.chinadaily.com