รัฐบาลกว่างซี ได้ประกาศความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้ตัวเองเป็น “Highland นวัตกรรมและความร่วมมือ เปิดสู่ภายนอกด้านอาชีวศึกษาที่มุ่งสู่อาเซียน” ซึ่งปัจจุบัน เขตฯ กว่างซีจ้วงมีสถาบันอาชีวศึกษา 310 แห่ง โดยมีสถาบันอาชีวศึกษาระดับปริญญาตรีจำนวนมากเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศจีน และเป็นหนึ่งในมณฑลที่รับนักศึกษาอาเซียนจำนวนมากที่สุด และในเขตฯ กว่างซีจ้วงมีนักศึกษาอาเซียนมากกว่า 6,000 คน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 67 ของจำนวนนักศึกษาต่างชาติในกว่างซีที่มีกว่า 9,000 คน
หลายปีที่ผ่านมา สถาบันการศึกษาในกว่างซีกับประเทศไทยมีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในด้านการพัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนแบบทวิวุฒไทย-จีน โดยเฉพาะโมเดลการบรูณาการความร่วมมือระหว่าง “สถาบันการศึกษา + ภาคธุรกิจ/อุตสาหกรรม” เป็นรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ช่วยให้นักศึกษาไทยได้แสวงหาความรู้และมีโอกาสได้ฝึกประสบการณ์วิชาชีพในสถานประกอบการในจีน รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรเพื่อ Upskill/ Reskill เพื่อสร้างทักษะแรงงาน เพื่อให้สอดคล้องและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนโลกอุตสาหกรรมยุคใหม่ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจของประเทศและสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ โดยเฉพาะสาขาที่เกี่ยวข้องกับ “พลังการผลิตใหม่” (New Productive Forces) ที่มุ่งเน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคต อาทิ รถไฟความเร็วสูง ยานยนต์ไฟฟ้า ปัญญาประดิษฐ์ พลังงานใหม่ เซมิคอรดักเตอร์ หุ่นยนต์อุตสาหกรรม การบินและอวกาศเชิงพาณิชย์
ปัจจุบันมีหลายสถาบันการศึกษาและภาคเอกชนที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตร ซึ่งรวมถึงมหาลัยนอร์ทกรุงเทพที่ส่งผู้แทนเข้าร่วมพีธีเปิดป้าย “พันธมิตร ‘จีน+อาชีวศึกษา’ จีน-อาเซียน” โดยนับเป็นปฐมบทใหม่ของความร่วมมือด้านอาชีวศึกษาในด้านภูมิภาค และมีความสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมการพัฒนาที่สมดุลด้านการศึกษา ยกระดับคุณภาพการศึกษาระดับอาชีวศึกษา และบ่มเพาะบุคลากรที่มีทักษะความสามารถสูงเพื่อตอบโจทย์ความต้องการตลาด
อย่างไรก็ตาม สถาบันอาชีวศึกษาของไทยนั้นมีศักยภาพในการมุ่งสร้างและพัฒนากำลังแรงงานอาชีวะที่มีทักษะสูงที่เกี่ยวข้องกับ “พลังการผลิตใหม่” (New Productive Forces) ที่มุ่งเน้นนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เป็นที่ต้องการให้สอดคล้องและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนโลกอุตสาหกรรม เพื่อรองรับและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกิดใหม่เชิงยุทธศาสตร์และการบริการสมัยใหม่ของประเทศในอนาคต
ข้อมูล: สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง
เรียบเรียงโดย: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์