ในช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้นมักมีการจองตั๋วภาพยนตร์ล่วงหน้าสำหรับการเข้าชม และรายได้จากการเข้าชมยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยระหว่างวันที่ 1 ถึง 7 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา รายได้จากการขายตั๋วในแต่ละวันทำลายสถิติ 1 พันล้านหยวน (140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ติดต่อกัน 7 วัน สร้างสถิติใหม่ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ของจีน ซึ่งภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ (1) “นาจา:เด็กหนุ่มปีศาจพิชิตราชามังกร” หรือ “นาจา ภาค 2” (2) “นักสืบไชนาทาวน์ 1700:Detective Chinatown 1900” และ (3) “ศึกเทพสถิตสายฟ้า ภาค2:ไฟสงครามแห่งซีฉี” โดย “นาจา ภาค2” ที่ผลิตที่เฉิงตู ทำรายได้รวมทะลุ 5 พันล้านหยวน (700 ดอลลาร์สหรัฐ) คิดเป็นกว่าร้อยละ 50 ของรายได้รวมในช่วงเทศกาลตรุษจีน และกลายเป็นภาพยนตร์หลักในปีนี้
อีกทั้ง “นาจา ภาค2” มีผู้เข้าชมมากถึง 2.45 ล้านคน เนื่องจากเป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับทุกวัย จึงทำให้ผู้ปกครองจำนวนมากพาบุตรหลานไปชมภาพยนตร์ และยังได้คะแนนจาก Douban สูงถึง 8.5 และ Taopiaopiao สูงถึง 9.7 เป็นข้อพิสูจน์ว่า “นาจา ภาค2” เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความชื่นชมจากกลุ่มแฟนคลับและกลุ่มคนทั่วไป ซึ่งมีจำนวนผู้ชมมากในกลุ่มอายุ 30-39 ปี และผู้ชมที่มีความี่ในการชมภาพยนตร์ปานกลางถึงต่ำมากอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นว่ามีจำนวนผู้ชมจำนวนมากที่เคยเป็นกลุ่มผู้ชมหลักของตลาดภาพยนตร์กลับมาชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์หลังจากที่หายไประยะหนึ่ง โดยการคาดการณ์จากระบบ AI ของ Movie Data Platform Beacon Pro บ่งชี้ว่า “นาจา ภาค2” สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นทุกวัน และอาจทำรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์จีน
นายเฉิน จิ้น นักวิเคราะห์จาก Movie Data Platform Beacon Pro กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา รายได้จากการขายตั๋วในช่วงเทศกาลตรุษจีน จาก 700 ล้านหยวน (98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จนถึง 8 พันล้านหยวน (1.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) กลายเป็นช่วงเวลาทำรายได้สูงสุดในตลาดภาพยนตร์ 22 เรื่อง ทำรายได้เกิน 3 พันล้านหยวน (420 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ครึ่งนึงมาจากช่วงเทศกาลตรุษจีน และ 4 ใน 5 อันดับแรกของรายได้ภาพยนตร์ในปี 2567 มาจากช่วงเทศกาลตรุษจีน แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของช่วงเทศกาลตรุษจีน
การขยายตัวของตลาดภาพยนตร์จีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับโอกาสในการเข้าสู่ตลาดนี้ของภาพยนตร์ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่เป็นช่วงเวลาทองสำหรับการสร้างรายได้จากการขายตั๋วภาพยนตร์ในจีน ทำให้เห็นว่า นอกจากตลาดภายในประเทศแล้ว ตลาดการค้าระหว่างประเทศก็มีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับภาพยนตร์จากประเทศที่มีวัฒธรรมที่คล้ายคลึงหรือมีการเชื่อมโยงกับจีนเช่นประเทศไทย
ข้อมูล: สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู
เรียบเรียงโดย: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์