“เงินหยวน” กำลังเข้าใกล้เป้าหมายการเป็นสกุลเงินหลักของโลกตามแผนการผลักดันให้สกุลเงินหยวนก้าวสู่สากล (RMB Internationalization) ที่รัฐบาลจีนได้วางไว้ โดย “อาเซียน” ถือว่ามีความสำคัญ ต่อจีนในการผลักดันให้เงินหยวนเป็นสกุลเงินสากล ซึ่งเงินหยวนได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในอาเซียนเช่นกัน ในแผนการผลักดันการใช้เงินหยวนในการค้าระหว่างประเทศ กล่าวได้ว่า “เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง” เป็นหนึ่งในเขตการปกครองระดับมณฑลที่รัฐบาลกลางให้การสนับสนุนเชิงนโยบายด้านต่าง ๆ มากพอสมควร เพื่อผลักดันการเปิดสู่ภายนอกและขับเคลื่อนการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของเขตปกครองตนเองแห่งนี้
โดยที่ผ่านมา เขตฯ กว่างซีจ้วง เป็นพื้นที่ทดลอง นโยบายนำร่องการปฏิรูปภาคการเงินหลายด้าน โดยเฉพาะการพัฒนานวัตกรรมการเงิน (Fintech) ควบคู่กับการส่งเสริมการใช้สกุลเงินหยวนในการทำธุรกรรมการเงินข้ามพรมแดนกับชาติสมาชิกอาเซียน ซึ่งล้อตามยุทธศาสตร์ Gateway to ASEAN ที่รัฐบาลกลางได้มอบให้กับกว่างซี เช่น จุดทดลองการใช้ระบบบัญชีธนาคารบัญชีเดียวสำหรับการชำระบัญชีเงินหยวนและเงินต่างประเทศ จากปัจจัยข้างต้น ส่งผลให้ธุรกรรมเงินหยวนข้ามแดนของกว่างซีโดยเฉพาะการชำระบัญชีระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนของกว่างซีมีมูลค่ายืนหนึ่งใน 12 มณฑลทางภาคตะวันตกและ 9 มณฑลชายแดนของประเทศจีนตลอดสิบกว่าปีมานี้ โดยมีอาเชียนเป็นพื้นที่เป้าหมายและเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในการพัฒนาธุรกรรมเงินหยวนข้ามแดนของกว่างซี
ในปีที่ผ่านมา มูลค่าการชำระบัญชีระหว่างประเทศของกว่างซีก็ยังคงยืนหนึ่ง ใน 12 มณฑลทางภาคตะวันตกและ 9 มณฑลชายแดนของจีนเช่นเคย โดยเขตฯ กว่างซีจ้วงมีมูลค่าการชำระ บัญชีระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวน 588,500 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และ มูลค่าการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (Overseas Direct Investment หรือ ODI) มีมูลค่า 266 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นยอดโอนออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น 5.03 เท่า หลายปีมานี้ เขตฯ กว่างซีจ้วง ได้พัฒนานวัตกรรมการทำธุรกรรมเงินหยวนข้ามพรมแดนเพื่ออำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุนมากยิ่งขึ้น เพื่อเร่งผลักดันการพัฒนาให้ตนเองเป็น “ประตูการเงินสู่อาเซียน” (Financal Gateway to ASEAN) โดยมีศูนย์กลางตั้งอยู่ที่ “ย่านการเงินจีนอาเซียน” หรือ China-ASEAN Finandal Town ในเขตเมืองใหม่อู่เชียง นครหนานหนิง ข้อมูล ณ สิ้นปี 2567 ย่านการเงินจีน-อาเซียนมีสถาบันการเงินเข้าจัดตั้งสถานประกอบการแล้ว 567 รายในจำนวนนี้ เป็นสถาบันการเงินรายใหม่ 55 ราย
ปัจจุบัน เขตฯ กว่างซีจ้วงกำลังส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจด้านการสนับสนุนบริการทางการเงินขั้นกลางและหลังบ้าน ซึ่งขณะนี้ ย่านการเงินจีน-อาเซียนมีธุรกิจด้านการสนับสนุนบริการทางการเงินขั้นกลางและหลังบ้าน รวมถึงบริษัทด้านเทคโนโลยีการเงินตั้งอยู่ 37 ราย นอกจากนี้ เขตฯ กว่างซีจ้วงกำลังส่งเสริมการดำเนิน 5 นโยบายนำร่องทางการเงินในนครหนานหนิงให้เข้าถึงและแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ได้แก่ การจัดหาเงินทุนระหว่างธนาคารด้วยสกุลเงินหยวนข้ามพรมแดน สินเชื่อสกุลเงินหยวนสำหรับโครงการในต่างประเทศ การอำนวยความสะดวกในการไหลเวียนของเงินหยวนข้ามพรมแดนแบบสองทาง การลดระเบียบขั้นตอนในการทำธุรกรรมการโอนเงินไปต่างประเทศขององค์กร/สถาบันต่างชาติที่ถือบัญชีสกุลเงินหยวน (Non-Resident Account – NRA) ในประเทศจีน และการโอนสิทธิเรียกร้องสินทรัพย์/สินเชื่อในประเทศให้กับองค์กร/สถาบันในต่างประเทศ ปัจจุบัน การทำธุรกรรมตาม 5 นโยบายนำร่องที่กล่าวมาข้างต้นในนครหนานหนิง มีมูลค่าสะสมมากกว่า 22,500 ล้านหยวน
ทั้งนี้ อาเซียนก็มีความสำคัญต่อจีนในการผลักดันให้เงินหยวนเป็นสกุลเงินสากล ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในอาเซียน รวมถึงประเทศไทย ความร่วมมือในระดับธนาคารกลางสองฝ่ายได้มีการกำหนดให้เงินหยวนเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ มีการชำระดุลเงินหยวนระหว่างธนาคารสองประเทศด้วยเงินหยวนสามารถทำการแลกเปลี่ยนเงินหยวนได้โดยตรง (Direct quotation) ผ่านระบบ China Foreign Exchange Trading System & National Interbank Funding Center CFETS ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ได้เข้าร่วมใช้งานระบบการชำระเงินข้ามแดนด้วยสกุลเงินหยวน (Cross-border Interbank Payment System – CIPS) ซึ่งการชำระค่าสินค้าผ่านระบบ CIPS ด้วยสกุลเงินหยวน เงินทุนไหลเข้า-ออกได้อย่างคล่องตัว สามารถล็อคอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนได้ทั้ง Onshore และ Ofishore ช่วยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX Hedging) และช่วยลดต้นทุนการค้าข้ามแดนให้กับภาคธุรกิจ
อีกทั้ง ความสำคัญของเศรษฐกิจจีนที่มีต่ออาเซียนและประเทศไทย และความผันผวนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจาก วิกฤติการเงินโลก การใช้เงินหยวนจึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ทำการค้าและการลงทุนกับจีน เนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนและไม่มีต้นทุน (กำไรขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน) เพิ่มอำนาจการต่อรองกับคู่ค้าจีน และเป็นการกระจายความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนจากสกุลเงินเดียว ซึ่งปัจจุบัน ธนาคารไทยหลายแห่งมีให้บริการแล้ว ในเชิงนโยบายไทย เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความร่วมมือด้านการเงินที่ใกล้ชิดกับจีน โดยประเทศไทยได้กำหนดให้เงินหยวนเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ มีการลงนามในความตก SWAP เงินบาทกับเงินหยวน ได้จัดให้มีการชำระดุลเงินหยวนระหว่างธนาคารสองประเทศ และมีการขนย้ายเงินสดระหว่างประเทศโดยตรงผ่านสายการบิน การมีสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เป็นมิตร โดยเฉพาะในแง่ของการเปิดกว้างภาคการเงินระหว่างประเทศ ช่วยให้มีความสะดวกในการประกอบธุรกิจ และภาคธุรกิจก็มีขีดความสามารถทางการแข่งขันมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นการดำเนินนโยบายการปฏิรูปภาคการเงิน ‘ระบบบัญชีเดียว’ ที่กล่าวมาข้างต้นจึงมีนัยสำคัญต่อกว่างซีในการยกระดับการเปิดกว้างทางการค้าการลงทุน ซึ่งช่วยขยายผลต่อไปถึงความสัมพันธ์ในทุกมิติระหว่างจีน/กว่างซี)กับต่างประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย
ข้อมูล: สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง
เรียบเรียงโดย: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์