เมื่อเร็ว ๆ นี้ มณฑลกุ้ยโจวร่วมกับพันธมิตรสี่มณฑล ได้แก่ นครฉงชิ่ง เขตฯ กว่างซี มณฑลยูนนาน และมณฑลหูหนาน ร่วมกันจัดซื้อเวชภัณฑ์ล็อตแรกจำนวน 187 รายการ รวม 15 ประเภท ส่งผลให้ได้ยาในราคาถูกลงถึงร้อยละ 83.54
.
การร่วมกันจัดซื้อยาครั้งนี้มีส่วนสำคัญในการแก้ปัญหา “ยามีราคาแพง” และ “ค่ารักษาพยาบาลแพง” ขณะเดียวกัน การเพิ่มอำนาจต่อรองก็ส่งผลให้ได้ยาที่มีคุณภาพสูงและราคาสมเหตุสมผล ส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับยาคุณภาพดีและราคาถูกลง รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ราคายากลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมอีกด้วย ส่วนการคัดเลือกยา จะพิจารณาจากยาที่มียอดการใช้งานในปริมาณมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยาที่เกี่ยวข้องกับการรักษา เช่น ยาต้านจุลินทรีย์ ยารักษาโรคระบบทางเดินอาหาร ยารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น ทั้งนี้ หากคำนวณตามยอดซื้อยาที่ได้ตกลงร่วมกันของทั้งห้ามณฑล จะทำให้สามารถประหยัดเงินได้ถึงปีละ 1,265 ล้านหยวน
.
ถึงแม้ว่า รายงานของ MEDBELLE ที่ได้จัดอันดับราคายาในประเทศต่างๆ (The 2019 Medicine Price Index) โดยเปรียบเทียบจากดัชนีราคายาใน 50 ประเทศทั่วโลก จะจัดให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีราคายาถูกที่สุดในโลก โดยมีราคาเฉลี่ยโลกอยู่ที่ 93.93% แต่ราคายาและเวชภัณฑ์ในโรงพยาบาลเอกชนยังมีราคาสูงกว่า โรงพยาบาลของรัฐหลายเท่า ฉะนั้น ภาคเอกชนไทยควรหาพันธมิตรดังเช่นจีนในการร่วมกันแก้ปัญหายามีราคาแพง ให้ได้ยาที่มีคุณภาพสูงและราคาสมเหตุสมผล เพื่อให้คนไทยเข้าถึงยาอย่างมีคุณภาพและทั่วถึง
.
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง