ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประชากรในเมืองชิงต่าวหันมารักษาสุขภาพเเละตระหนักในการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ค่อยๆบ่มเพาะนิสัยในการออกกำลังกาย หลังจากเลิกงานหรือวันหยุดก็จะออกจากบ้านเพื่อไปออกกำลังกายจนเกิดเป็นความเคยชินกลายเป็นการปฏิบัติในชีวิตประจำวันชองชาวชิงต่าวไปเเล้วก็ว่าได้ สถิติสัดส่วนของประชากรที่ ออกกำลังกายเป็นประจำ ของเมืองชิงต่าวมีจำนวนสูงถึง 50% เเละกีฬายอดฮิต 4 อันดับเเรก ได้เเก่ (1) เเบดมินตัน (2) วิ่งหรือวิ่งเหยาะ (3) บาสเกตบอล (4) กีฬากลางเเจ้ง ปีนเขา เดิน
.
สัดส่วนการใช้จ่ายอุปกรณ์กีฬาสูงถึง 1,000 หยวนต่อคน
.
การใช้จ่ายอุปกรณ์กีฬาของชาวชิงต่าวได้รับการจัดอยู่ในอันดับต้นๆในการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยสัดส่วนต่อคนอยู่ที่ 1,547.19 หยวน คิดเป็น 53.6% ของค่าใช้จ่ายในการบริโภคด้านกีฬาทั้งหมดต่อคน ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับฟิตเนสเเละสันทนาการอยู่ที่ 650.17 หยวนต่อคน
.
ความนิยมในการออกกำลังกาย นำไปสู่การพัฒนาเเละส่งผลต่อธุรกิจทางด้านการออกกำลังกายที่เเข็งเเกร่งรวมถึงการสอนเเละการฝึกอบรมในการออกกำลังกายโดยประชากรชิงต่าวใช้จ่ายค่าฝึกอบรมการออกกำลังกายอยู่ที่ 261.69 หยวนต่อคน คิดเป็น 9.1% ของค่าใช้จ่ายในการบริโภคด้านการกีฬา
.
จากมุมมองของผู้บริโภค เพศหญิงมีการบริโภคสูงกว่าเพศชายโดยมักให้ความสนใจเเละนิยมเลือกกีฬาโยคะ สำหรับผู้ออกกำลังกายชาวจีนเเบดมินตันเเละบาสเกตบอลเปรียบเสมือนกีฬาพื้นฐานของผู้บริโภคทั่วไป ตามมาด้วยกีฬาว่ายน้ำเเละดำน้ำ ซึ่งประชากรหนุ่มสาวที่มีอายุระหว่าง 20 – 29 ปี เเละวัยกลางคนอายุระหว่าง 30 – 40 ปีเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักเเละสูงโดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 3,314.77 เเละ 3,268.80 ตามลำดับ ในขณะที่เด็กเเละเยาวชนหรือผู้สูงอายุมีการบริโภคหรือเล่นกีฬาในเกณฑ์ที่ค่อนข้างต่ำ
.
กีฬาที่กำลังมาเเรงในช่วงกักตัวที่ได้รับความนิยมจากวัยรุ่น คือ กีฬา E-sports เเละกิจกรรมเชิงการ์ตูนเเอนิเมชั่นด้านกีฬาโดยผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิงเเละเป็นชาวเมืองมากกว่าผู้อาศัยในชนบท ที่น่าสนใจ คือ ผู้ที่มีระดับการศึกษาสูงก็มีเเนวโน้มเล่นกีฬา E-sports เพิ่มมากยิ่งขึ้น
.
โอกาสของผู้ประกอบการไทย
.
ด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้คนจีนจำนวนมากหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้นส่งผลให้เกิดพฤติกรรมการใช้จ่ายเพื่อสุขภาพเพิ่มสูงขึ้น แนวโน้มดังกล่าวนอกจากจะสะท้อนโอกาสในธุรกิจด้านการกีฬาไทย เช่น มวยไทยที่ได้รับความนิยมสูงในหมู่ผู้บริโภคชาวจีนเนื่องจากเป็นกีฬาที่ได้ออกกำลังทุกส่วนของร่างกาย เเละเป็นกีฬาที่ผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยสามารถเข้าถึงได้
.
นอกเหนือจากนี้แนวโน้มการส่งออกครูมวยไปสอนในต่างประเทศก็มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมวยไทยกำลังได้รับความนิยมจากต่างชาติมาก แต่เทรนเนอร์มวยไทยในจีนยังมีจำนวนน้อยเปรียบเทียบกับความต้องการและจำนวนฟิตเนสที่เพิ่สูงขึ้นอย่างมากในจีน จึงถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะพิจารณานำกีฬามวยไทยไปบุกตลาดจีนที่กำลังให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายอย่างมาก นอกเหนือจากนี้ผู้ประกอบการไทยด้านสินค้าเพื่อสุขภาพควรใช้โอกาสในการโฆษณาเเละสนับสนุนสินค้าเพื่อสุขภาพ อาทิ ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ เช่น รังนกหรือธัญพืช เครื่องดื่มชูกำลัง ผลิตภัณฑ์เครื่องนอนยางพารา และผลิตภัณฑ์สปาเพื่อสุขภาพในการตอบโจทย์เทรนด์การออกกำลังกายเเละรักสุขภาพที่กำลังมาเเรงในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน
.
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองชิงต่าว