เมืองเซินเจิ้นเป็นฐานการผลิตสินค้าเทคโนโลยีที่สำคัญระดับโลกและมีแรงงานต่างมณฑลมากที่สุดของจีน จึงทำให้เมืองเซินเจิ้นมีอัตราความเสี่ยงของการติดเชื้อโรค COVID-19 มากขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ดี ภายหลังจากแรงงานจากทั่วประเทศกลับเข้ามาทำงาน บริษัทแต่ละแห่งในเมืองเซินเจิ้นจึงจำเป็นต้องมีมาตรการการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคตามประกาศของรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อให้โรงงานและบริษัทแต่ละแห่งสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นและสร้างเสถียรภาพให้แก่อุตสาหกรรมการผลิตของเมืองเซินเจิ้น
[su_spacer]
บริษัท Huawei Technologies จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในจีนและที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเซินเจิ้นได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) และเทคโนโลยีการประมวลผลระยะใกล้ (edge computing) มาใช้ในการวิเคราะห์สัญญาณภาพเพื่อตรวจจับพนักงานที่ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย นอกจากนี้ บริษัท Huawei ยังจัดทำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศออนไลน์เพื่อติดตามและป้องกันการรวมกลุ่มของพนักงานในพื้นที่ของบริษัทซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อของโรค COVID-19 อีกด้วย
[su_spacer]
บริษัท Shenzhen Micro-core Biotechnology จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตวัสดุใหม่ เช่น ยางเรซิน ยางสังเคราะห์ (synthetic rubber) ไฟเบอร์ประดิษฐ์และไฟเบอร์สังเคราะห์ (artificial and synthetic fibers) ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเซินเจิ้น ได้ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า (facial recognition) แทนการสแกนลายนิ้วมือเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อโรค COVID-19 นอกจากนี้ บริษัท Shenzhen Micro-core Biotechnology ยังได้จัดฝึกอบรมมาตรการป้องกันโรคให้แก่พนักงานงานผ่านทางออนไลน์และจัดสรรเวลาการทำงานของพนักงานให้แตกต่างกันเพื่อลดการรวมกลุ่มของพนักงานในบริษัท
[su_spacer]
ทั้งนี้ เมืองเซินเจิ้นเป็นยังศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีระดับสูงที่สำคัญของจีนและเป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก เช่น บริษัท Huawei บริษัท ZTE บริษัท DJI บริษัท Tencent บริษัท BGI บริษัท BYD บริษัท SF Express และบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ อีกกว่า 20,943 แห่ง โดยเมืองเซินเจิ้นมีบริษัทด้านเทคโนโลยีขั้นสูงมากเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงปักกิ่ง
[su_spacer]